จากกรณีทางฝ่ายข่าวของเวิร์คพอยท์ทีวี นำเสนอรายงานพิเศษเจาะลึก “เบื้องหลังธุรกิจซื้อขายรางวัล” ก่อนถูกบริษัทออกาไนซ์เซอร์ ซึ่งเป็นของนักปั้นนางงามที่เคยมีปัญหาฟ้องร้องกัน และ เป็นผู้จัดงานอีเวนท์หลายๆ งาน
ขู่เตรียมให้ให้ทนายความเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะฟ้องจริงหรือไม่นั้นต้องจับตา เพราะทางคู่กรณีก็ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ต้องพึ่งพาอาศัยสื่อมวลชนทุกแขนง ซึ่งเวิร์คพอยท์ทีวีก็เป็นยักษ์ใหญ่
หมายกำหนดการเข้ารับรางวัลของบริษัทออกาไนซ์เซอร์ ซึ่งบุ๋ม ปนัดดา ไม่ได้มางานนี้ด้วย
ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ย.) นายบรรจง ชีวมงคลกานต์ รองผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ทีวี ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ชี้แจงกรณีสกู๊ปแฉธุรกิจซื้อขายรางวัล พร้อมเตรียมต่อสู้คดีหลังถูกแจ้งความทันที
นายบรรจง ระบุว่า ตนมีเอกสารชัดเจน ว่าทางผู้จัดงานเชิญชวนเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆร่วมงานรับรางวัลที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.ย. โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต้องสนับสนุนตามแพ็คเกจที่กำหนด
ซึ่งข่าวชิ้นนี้ตนได้เขียนจากข้อมูลตามที่ได้ สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องจริง ไม่ได้มโนเขียนขึ้นมาเอง โดยบุคคลที่สัมภาษณ์ประกอบด้วย นายสาโรจน์ ดาราฉาย นายกสมาคมสื่อมวลชนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีชื่อสมาคมเป็นผู้จัดงานทีแรก นายวิรัช สุวรรณวิไลกุล ผู้บริหารบริษัทอนุสรณ์กรุ๊ป และประธานชมรมปันน้ำใจอุ่นไอรัก ซึ่งเป็นออแกไนซ์เซอร์จัดงาน และ นางปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ บุ๋ม ประธานองค์กรความดี ในฐานะหนึ่งในผู้ที่ถูกเชิญร่วมรับรางวัล
“ข้อมูลทั้งหมด ก็เขียนจากที่ได้สัมภาษณ์พูดคุยมา นายวิรัชเองก็ยอมรับว่ามีการเก็บเงินจากผู้เข้ารับรางวัลจริง บางส่วนที่มารับฟรี ๆ ก็มี โดยเฉพาะผู้มีชื่อเสียง โดยสองรายแรกผมเดินทางไปสัมภาษณ์กับเจ้าตัวถึงที่ทำงาน ส่วนคุณบุ๋ม ผมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ แต่มีหลักฐานทั้งการบันทึกภาพ หรือบันทึกเสียงการพูดคุยทุกคน” นายบรรจง กล่าว
นายบรรจง กล่าวว่า การนำเสนอข่าวชิ้นนี้ เป็นการนำเสนอโดยมีเจตนาให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมสาธารณะได้รับทราบ โดยเฉพาะผู้บริโภคที่อาจเข้าใจผิดว่า ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้รับรางวัลการันตี ได้ผ่านการตรวจสอบและคัดกรองอย่างละเอียดจากกรรมการผู้มอบรางวัลอย่างแท้จริง
เนื่องจากมีการใช้ชื่อรางวัลที่แปลความได้ว่าดีเยี่ยม ซึ่งในความเป็นจริง นายวิรัชก็ยอมรับว่าไม่ได้มีการใช้เกณฑ์การคัดเลือกอย่างละเอียดมากมาย เพียงแค่เป็นผลิตภัณฑ์ถูกกฎหมาย มีเลขจดแจ้ง อย. ก็ผ่านเกณฑ์ และการมอบรางวัลก็เพื่อหาเงินมาสนันสนุนการจัดงาน และนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ไปใช้ในกิจกรรมบริจาคให้ผู้ขาดแคลนผ่านชมรมปันน้ำใจอุ่นไอรัก ทางผู้จัดงานกล่าวยืนยันพร้อมให้พิสูจน์หลักฐานตัวเลขรายรับ-รายจ่าย ยอดเงินคงเหลือ และตัวเลขที่นำไปใช้บริจาค จึงขอเรียกร้องให้แสดงหลักฐานตามที่กล่าวอ้างด้วย
ส่วนกรณีผู้จัดงานให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ระบุว่าจะไปแจ้งความที่ สน. วังทองหลาง ในวันที่ 19 ก.ย. นี้ เพื่อเอาผิดข้อหาหมิ่นประมาทกับทางรายการ ตนได้รับทราบแล้ว และพร้อมต่อสู้คดีตามขั้นตอนยุติธรรม
โดยใช้สิทธิต่อสู้คดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (3) และมาตรา 330 ว่าด้วยเรื่องข้อยกเว้นไม่ต้องรับผิดในคดีหมิ่นประมาท โดยเป็นการนำเสนอเรื่องราวเพื่อประโยชน์สาธารณะ ด้วยความสุจริต และพร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล
“ทันทีที่หลังจากผู้จัดงานแจ้งความต่อทางรายการ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าว ทางผู้บริหารที่จัดงานเป็นผู้ให้ข้อมูลเอง และยอมรับต่อสื่อสำนักข่าวอื่นๆอีกครั้งว่ามีการเรียกรับเงินกับผู้ได้รับรางวัลจริง
กระผมเห็นว่าเป็นการเข้าข่ายกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา กระผมจึงจะขอใช้สิทธิแจ้งความกลับผู้จัดงาน ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 ประกอบมาตรา 173 ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกินหกพันบาท โดยจะแจ้งความทันทีภายหลังจากที่ผู้จัดงานได้แจ้งความต่อทางรายการ” นายบรรจง กล่าว
สำหรับ บรรจง ชีวมงคลกานต์ ถือเป็นคนข่าวที่มีความสามารถสูง ผ่านการทำงานข่าวมาอย่างมากมาย เป็นลูกหม้อของเครือ Nation และย้ายไปช่องอื่นๆ สุดท้ายมานั่งในตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ทีวี