การเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ ถือเป็นสัญญาณสำคัญของคนไทยทั้งประเทศ ที่ต้องปรับตัวรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปให้ได้ ซึ่งการเปิดเสรีการค้า บริการและการลงทุนในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ธุรกิจของไทยต้องก้าวออกไปข้างนอกเท่านั้น เพียงแค่ทำธุรกิจอยู่ในไทยก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เช่นกัน เพียงแต่เตรียมให้พร้อมก็เท่านั้น!!
เช่นเดียวกับ “บีบี คลินิก” ศูนย์ความงามครบวงจรของไทย ที่เรียกได้ว่า ได้เตรียมพร้อมรับมือในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะต้องยอมรับว่าธรรมชาติของมนุษย์ ย่อมให้ความสำคัญกับเรื่องของความสวย ความงาม รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ มาเป็นลำดับต้น ๆ ของการใช้ชีวิต ที่ “สินีนารถ เองตระกูล” กรรมการผู้จัดการ บีบี คลินิก บอกว่า เวลานี้เรื่องของธุรกิจเสริมความงามนั้นยังคงไปได้ดี แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมอาจมีปัญหาบ้างก็ตาม แต่สำหรับตลาดคลินิกความงามแล้วยังเติบโตต่อเนื่องถึงปีละ 15-20% ขณะที่มูลค่าตลาดรวมแล้วก็มีไม่น้อยกว่า 20,000-30,000 ล้านบาททีเดียว ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สดใสทีเดียว
ด้วยความที่ว่ากระแสแฟชั่นของการทำศัลยกรรมที่มีอยู่อย่างหลากหลาย จากอิทธิพลของบรรดาดารา เซเล็บ จึงทำให้ธุรกิจนี้ยังสามารถเดินหน้าไปได้อย่างดี
ที่สำคัญ…บีบี คลินิก เวลานี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คลินิกเสริมความงามเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นสถาบันเสริมความงามครบวงจร 1 ใน 3 ของประเทศทีเดียว เพราะได้วิวัฒนาการไปสู่การทำศัลยกรรม ทั้งการเสริมทรวงอก จมูก ตา รวมไปถึงการผ่าตัดแปลงเพศ และการทำรีแพร์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ มีทีมแพทย์ดมยา ทีมแพทย์ศัลยกรรม ทั้งไทยและเกาหลี ที่เชี่ยวชาญมีฝีมือ รวมทั้งอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องไม้เครื่องมือที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าโรงพยาบาล ที่สำคัญยังเป็นศูนย์ความงามที่ได้รับการรับรองมาตรฐานไอเอสโอ 9001:2008 เพียงแห่งเดียว ดังนั้น…ทุกอย่างที่บีบีให้บริการนั้นปลอดภัย มีมาตรฐานเทียบเท่าโรงพยาบาลทุกอย่าง แต่เสียค่าใช้จ่ายในราคาของคลินิก
ไม่เพียงเท่านี้ในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า บีบีคลินิก ก็จะขยับฐานะเป็นโรงพยาบาลด้านความงาม เพื่อให้การบริการที่เพียบพร้อม ด้วยเงินลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท เพราะมีทีมแพทย์ที่มีศักยภาพและก้าวไปสู่การเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลมากขึ้น โดยจะเปิดให้บริการในย่านรังสิตที่ปัจจุบันเป็นสถานความงามขนาดใหญ่อยู่แล้ว เพราะมีพื้นที่พร้อมในการเป็นโรงพยาบาล
ซึ่งปัจจุบันนี้บีบีคลินิก เปิดให้บริการอยู่ 5 สาขา คือสาขาทองหล่อ 13, สาขาซอยมหาดไทย, สาขารังสิต, สาขาเชียงราย และที่ สปป.ลาว ที่เปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว
“สินีนารถ” บอกอีกว่า ในอีกไม่ช้าไม่นานไทยต้องก้าวเข้าสู่เออีซี ดังนั้นทุกธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับสิ่งแปลกใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งบีบีคลินิก ได้ทำในเรื่องนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยเริ่มรุกตลาดไปที่ สปป.ลาว ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากชาว สปป.ลาว ที่สำคัญยังได้พันธมิตรที่ดีจึงได้ส่งต่อลูกค้าให้กันและกัน และด้วยภาษาที่เข้าใจซึ่งกันและกัน อุปนิสัยใจคอ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ที่คล้ายคลึงกัน ทำให้การเปิดตลาดที่ สปป.ลาวนั้นไปได้ดีมาก และมีคุณหมอจากเกาหลีไปให้บริการถึงที่ เหมือนเรายกบีบีคลินิกไปอยู่ที่ สปป.ลาว ถ้ามีคนไข้อยากจะทำตา ทำจมูก จากคุณหมอเกาหลีก็สามารถไปทำ
ให้ได้แทนที่ต้องบินไปที่เกาหลี ซึ่งตรงนี้ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า ขณะที่เวียดนาม แม้เป็นตลาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ว่าคนเวียดนามนั้นเก่งอยู่แล้ว จึงทำให้บีบีฯ ยังไม่ก้าวเข้าไป เหมือน ๆ กับที่เมียนมาร์ และที่กัมพูชา ที่ยังไม่พร้อมเข้าไปเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะรวมถึงดูความเหมาะสมด้วย
อย่างไรก็ตามเวลานี้บีบีคลินิก ได้ให้บริการลูกค้าที่เป็นต่างประเทศอยู่แล้ว ด้วยความที่มีทีมแพทย์ที่พร้อม เชี่ยวชาญ มีศักยภาพและราคาไม่ได้แพงโอเวอร์ จึงทำให้บีบี เป็นที่สนใจของต่างประเทศด้วยเช่นกัน เพราะหากเทียบแล้วอย่างเช่นลูกค้าสิงคโปร์ หากใช้บริการของสายการบินโลว์คอสต์ แล้วบินมาฉีดฟิลเลอร์แล้วกลับไป ทำเช่นนี้ 2-3 ครั้ง ยังมีราคาที่ถูกกว่าทำที่สิงคโปร์ด้วยซ้ำไป
“สินีนารถ” ย้ำว่า ในปี 58 บีบีฯ ได้เน้นรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ด้วยการสร้างทีมเวิร์กที่มีศักยภาพในการติดต่อหาลูกค้าโดยร่วมกับพันธมิตร หาคอนเนกชั่น เพื่อดึงลูกค้าต่างประเทศเข้ามารับบริการด้านความงามในเมืองไทย โดยเน้นไปที่รัสเซีย แต่เมื่อรัสเซียมีปัญหาเศรษฐกิจ มีปัญหาเรื่องค่าเงิน จึงได้เน้นไปที่ลูกค้าจีนมากขึ้น เพราะเป็นผู้ที่มีกำลังซื้อสูงและนิยมเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยอยู่แล้ว รวมไปถึงตลาดยุโรป อเมริกาและออสเตรเลีย
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า เวลานี้เมืองไทยมีชื่อเสียงอยู่แล้วในเรื่องของการให้บริการด้านความงาม ที่นักท่องเที่ยวเองจะเข้ามาใช้บริการเป็นประจำ ดังนั้นบีบีเองไม่เน้นที่จะเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ
แต่เน้นในเรื่องของการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการในไทยมากกว่า จึงทำให้การสร้างทีมงานขยายตลาดต่างประเทศนั้นไม่จำเป็นต้องใช้จำนวนคนมากเพียงแต่ว่าต้องใช้คนที่มีอยู่แบบมัลติฟังก์ชั่น และเน้นเจาะตลาดแต่ละประเภทให้ชัดเจนไม่เพียงในเรื่องของการรุกตลาดต่างประเทศเท่านั้น บีบี คลินิก ยังเร่งเครื่องตลาดในประเทศด้วย
โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น แต่ลูกค้ายังต้องการดูแลตัวเองแต่อาจมีปัญหาขลุกขลักทางด้านการเงินบ้าง จึงได้จัดโปรโมชั่นให้ผ่อนชำระได้ โดยโปรโมชั่นแรกคือ “นมผ่อน” เริ่มต้นที่ 22,000 บาท ซึ่งสามารถผ่อนชำระได้เป็นงวด ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ขณะเดียวกันยัง ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของบีบีคลินิก
ในกลุ่มของผิวหน้า เพื่อนำไปวางจำหน่ายให้ร้าน “วัตสัน” ซึ่งมี 3 ชนิดได้แก่กลุ่มของเซรั่ม ยกกระชับผิวหน้า, กลุ่มครีมกันแดด และกลุ่มไวท์เทนนิ่ง รวมไปถึงการเปิดให้บริการด้านอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ด้วยความหลากหลาย มีทีมแพทย์ที่มีศักยภาพ และการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าแบบครอบครัว จึงทำให้ลูกค้าของ บีบีคลินิก เวลานี้มีมากถึงปีละ 40,000 คนทีเดียวทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าบีบีคลินิก จะเดินทางมาถึง 5 ปีแล้ว และประสบความสำเร็จมากพอสมควร แต่ด้วยความที่เป็นทายาทของอดีตปลัดกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการบริษัทเอกชน หน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งกิจการของครอบครัวอีกมากมาย อย่าง “สมใจนึก เองตระกูล”
จึงทำให้ ’สินีนารถ“ ค่อนข้างกังวล เพราะประสบการณ์ที่มีมาแม้ว่าจะหลายปีแล้วก็ตาม… แต่ด้วยธุรกิจที่มีหลายธุรกิจและแตกต่างกันออกไป ก็ทำให้กดดันเช่นกัน แต่ด้วยความโชคดีที่มีบิดาเป็นผู้เบิกทางไว้ให้ก่อนแล้วจึงทำให้ร่นระยะเวลาในการแสวงหาประสบการณ์ไปได้บ้าง และมาจนถึงขณะนี้ก็ถือว่าตัวเองมีความพร้อมกับการเป็นนักธุรกิจรุ่นที่ 2 เพื่อเข้ามาสานงานของครอบครัวอย่างเต็มตัวแล้วเช่นกัน.
