รวบแก๊งอุ้ม “ชะนี” ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปบนเกาะพีพี หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเลพร้อมด้วยตำรวจจับ 2 ผู้ต้องหาขณะพาชะนีตัวผู้ อายุ 2 ปี ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว แจ้งข้อกล่าวหาครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ต้องหารับสารภาพระบุยังมีชะนีอยู่ในครอบครองอีก 7 ตัว ลักลอบตระเวนโชว์และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปทั้งบนเกาะพีพีและแหล่งท่อง เที่ยวอื่นๆ ในกระบี่ เผยรายได้ดีช่วงไฮซีซั่นตกเดือนละกว่า 2 ล้านบาท ส่วนช่วงโลว์ซีซั่น 6 หมื่นถึงแสนบาท ต่อเดือน
เมื่อ เวลา 13.30 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2558 นายสุวัฒน์ สุขสิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุมตัวนายบัญชา ส่งไข่ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลางชะนีมือขาวเพศผู้สีดำ อายุ 2 ปีครึ่ง จำนวน 1 ตัว
โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรมแรมอันดามันรีสอร์ท อ่าวต้นไทร จ.กระบี่ ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสองกำลังนำชะนีมาบริการให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
นาย สุวัฒน์กล่าวว่า ก่อนการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่ามีคนนำชะนี ซึ่งเป็นสัตว์สงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองมาเร่บริการโชว์และถ่ายรูปเพื่อหาราย ได้โดยคิดค่าบริการครั้งละ 100 บาท ที่บริเวณหน้าโรงแรมดังกล่าว จึงประสานตำรวจ สภ.ย่อยเกาะพีพี นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ
พบผู้ต้องหาทั้งสองกำลังโชว์ชะนีตัวดังกล่าวและให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปอยู่ พอดี จึงเข้าจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่า คุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นนายอนันต์หนึ่งในผู้ต้องหารับสารภาพว่าซื้อชะนีตัวดังกล่าวมา ตั้งแต่อายุประมาณ 1 เดือน จากจังหวัดระนองในราคา 35,000 บาท จากนั้นนำมาเลี้ยงจนโตก่อนนำมาตระเวนโชว์ตามแหล่งท่องเที่ยวและให้นักท่อง เที่ยวถ่ายรูปกับชะนี คิดค่าบริการครั้งละ 50-100 บาท ช่วงไฮซีซั่นที่ผ่านมามีรายได้จากการโชว์ถ่ายรูปชะนีเฉลี่ยสูงสุดเดือนละ กว่า 2 ล้านบาท ส่วนในช่วงโลว์ซีซั่นมีรายได้ลดลงเหลือวันละ 2,000-3,000 บาท รายได้เฉลี่ยเดือนละ 60,000-100,000 บาท
นายสุวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้ทราบว่ายังมีชะนีอีกประมาณ 7 ตัวที่ยังลักลอบตระเวนโชว์และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปบนเกาะพีพีและแหล่ง ท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัดกระบี่ เนื่องจากมีรายได้สูง ขณะที่บทลงโทษไม่รุนแรง สามารถเปรียบเทียบปรับได้ครั้งละ 1,000-2,000 บาท จะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
