จากกรณีมีการเล่าลือถึงความเฮี้ยนของโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง โรงเรียนในสังกัดของ อบจ.ระยอง ที่สร้างบนเนื้อที่ของเรือนจำกลางระยองเก่า จนมีผู้พบเห็นกับสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติ ที่มาในรูปแบบเสียง เงา และ แสดงให้เห็น
จนทำให้บุคคลากรของโรงเรียนต่างขนหัวลุกกับความเฮี้ยนของโรงเรียนแห่งนี้ โดยสองแม่บ้านที่ได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ขนหัวลุกว่า เคยพบขณะขึ้นไปทำความสะอาดบนชั้นสามของตึกเอนกประสงค์ประตูเปิดเปิดเองทั้งที่ไม่มีช่องลมและใรอยู่ด้านใน
( ภาพประกอบจากละคร )
และยังพบว่าลูกบิดประตูเปิดปิดเองได้ รวมไปถึงนักศึกษาภาคพิเศษที่เข้าห้องน้ำแล้วได้ยินเสียงเหมือนคนลากโซ่ตรวนไปกับพื้นห้องน้ำ แต่เมื่อเปิดมาดูกลับว่างเปล่าจึงรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำจนเป็นลมล้มพับไป
ส่วนเด็กนักเรียนก็ได้พบกับเหตุการณ์หลอนในช่องลิฟท์ของอาคาร A โดยเห็นเป็นเงาโผล่เข้าไปมาในช่องลิฟท์ จากหลายเหตุการณ์ที่ชวนให้ขนสยองพองเกล้าจึงทำให้ทั้งแม่บ้านและนักเรียนไม่กล้าที่จะเข้าห้องน้ำและขึ้นไปทำความสะอาดเพียงลำพังเพราะกลัวจะเจอวิญญาณเฮี้ยน
ด้านนายจารุวัฒน์ สุนทรเวชพงศ์ รองนายก อบจ.ระยอง ได้กล่าวว่า โรงเรียนได้สร้างบนที่ดินของเรือนจำกลางระยองเก่าที่รื้อไปสร้างแห่งใหม่ ส่วนเรื่องเหนือธรรมชาติยังไม่ทราบเรื่อง ซึ่งจตะตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาต่อไป ตามที่ได้นำเสนอไปแล้ว
เกี่ยวกับความหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ย.นายมานิตย์ จันวัน ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมตากสินระยอง ได้ กล่าวถึงเรื่องกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเรื่องความเฮี้ยภายในโรงเรียน ว่า เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ก็ไม่เคยเกิดเหตุร้ายขึ้นกับนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียน แต่ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนกกับเรื่องดังกล่าว
เพราะตั้งแต่โรงเรียนสร้างมาก็ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น และ ขอยืนยันว่าตนเองไม่เคยพบเจอ และทางโรงเรียนก็มีการทำบุญใหญ่ทุกปีนิมนต์พระจากสองวัดมาสวดเจริญพุทธมนต์และล้อมสายสิญจน์ ทั่วทุกตึก เพื่อเป็นสิริมงคลทั้งแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และนักเรียนทุกคน จึงขอให้นักเรียนทุกคนอย่าได้ตื่นตระหนกและกลัวไปกับกระแสข่าว
( ผู้บริหารโรงเรียนสั่งโยงสายสิญจน์รอบตึก อ่านข่าวประกอบได้ที่ลิ้งค์นี้ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5qY3hPVFEwTlE9PQ==&catid=13 )
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลจากแม่ค้าภายในโรงเรียนว่าพื้นที่ที่กำลังก่อสร้างสระว่ายน้ำของโรงเรียนช่างก่อสร้างที่ทำงานอยู่ต่างก็ขวัญผวากับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นขณะก่อสร้าง โดยช่างก่อสร้างนับสิบคนที่กำลังลงไปทำงานในพื้นที่ที่ถูกขุดให้เป็นสระว่ายน้ำของโรงเรียน
ต่างก็ต้องตะลึงกับภาพที่ปรากฎอยู่ที่พื้นสระน้ำที่เพิ่งถูกขุดขึ้นขนาดกว้างยาวประมาณ 10 เมตร ทุกคนต่างก็มองเห็นเป็นรูปหน้าคนขนาดใหญ่นับสิบหน้าโผล่ที่พื้นสระน้ำที่เป็นดินทราย หลายคนพยายามใช้กล้องมือถือถ่ายรูปเก็บไว้เพราะเห็นเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติและชวนขนหัวลุก จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที รูปที่ปรากฎในพื้นสระก็ได้หายไป
จากการสอบถามนายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) หนึ่งในบรรดาช่างที่พบเหตุการณ์ขนหัวลุก ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้เห็นภาพหน้าคนในพื้นสระที่กำลังก่อสร้างจริงพร้อมกับเพื่อนช่างอีกนับสอบคน โดยตนเองได้ใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพดังกล่าวไว้ โดยถ่ายไว้นับสิบรูป
แต่พอนำมาเปิดดูก็พบแต่ความว่างเปล่ามีเพียงภาพแสงสีขาวไม่มีรูปอะไร ทั้งๆที่กล้องจากมือถือก็ยังปกติอยู่ ยังสามารถถ่ายรูปอื่นติดได้โดยไม่เสีย จึงเป็นเรื่องที่กล่าวขานกันในหมู่ช่างว่าเกิดจากความเฮี้ยนของบรรดาวิญญาณบนที่ดินแห่งนี้ ที่ต้องการสื่อให้เห็นเพื่อขอส่วนบุญเพราะอาจเป็นวิญญาณนักโทษที่เคยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำแห่งนี้ก็เป็นได้
ส่วนอีกรายเป็นพนักงานทำสวนของโรงเรียนที่ต้องทำงานในช่วงเลิกเรียนในตอนเย็นไปจนถึงช่วงดึกก็ได้ประสบกับเหตุการณ์ขนหัวลุกอยู่เนืองๆ ไม่ว่าจะเป็นเงาคนวิ่งผ่านหน้า เสียงคนพูดคุยกันอยู่บนตึกรวมไปถึงเสียงประตูหน้าต่างเปิดปิดเอง
จนทำให้เกิดความกลัวและรู้กันในหมู่พนักงานทุกคนว่าในโรงเรียนแห่งนี้มีวิญญาณหลอนอยู่จำนวนมาก ก็ได้แต่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แต่ก็ยังไม่วายต้องเจออยู่ประจำซึ่งพนักงานทุกคนจะรู้กัน และถูกห้ามไม่ให้นำเรื่องไปพูดให้เด็กนักเรียนฟังเพราะทางผู้บริหารกลัวจะกระทบต่อเด็กนักเรียน
แต่ก็ไม่สามารถปิดบังได้เพราะมีนักเรียนหลายคนต่างก็พบเจอและสัมผัสกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ และนำไปเล่าต่อให้เพื่อนนักเรียนฟังจนทำให้เกิดความกลัวกันทั้งโรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับกระแสข่าวความเฮี้ยนของโรงเรียนชาวบ้านรายรอบข้างโรงเรียนต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเฮี้ยนจริง แต่ทางโรงเรียนมักปิดข่าวเพราะกลัวจะเสียชื่อโรงเรียน
บางรายก็กล่าวว่าทำไมไม่เลือกสถานที่ก่อสร้างที่ดีกว่านี้ เพราะเรือนจำเก่าถือเป็นแดนคุมขังผู้คนมานานหลายสิบปีย่อมต้องมีคนเสียชีวิตไม่น้อยตามความเชื่อวิญญาณของผู้เสียชีวิตด้วยคความทุกข์ทรมานย่อมมีความเฮี้ยนมาก
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5qZ3lORE01TXc9PQ==
