เทคนิคการฉีด PRP เป็นเคล็ดลับเริ่ดๆ ที่คนดังฝั่งฮอลลีวู้ดกำลังนิยมเป็นอย่างมาก เช่น คิม คาร์ดาร์เชี่ยน เพราะเป็นการเร่งฟื้นฟูผิวหน้าให้สวยใส กลับมาฟูเด้งเหมือนสาวแรกรุ่นอีกครั้ง!
เทคนิคการฉีด PRP อาจจะเป็นศัพท์ใหม่ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยิน และคงจะกำลัง งงๆ นิดนึงว่า การฉีด PRP คืออะไร? แตกต่างจากการฉีดสารอื่นๆ เข้าใบหน้าอย่างไรบ้าง? บทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกกันให้รู้ไปเลยว่าเทคนิคนี้ มีข้อดีอะไรบ้างค่ะ
ก่อนอื่น เราต้องมาทำความรู้จักกับคำว่า PRP กันก่อน ซึ่งคำนี้ย่อมาจากคำว่า Platelet Rich Plasma ถ้าจะให้พูดกันง่ายๆ มันก็คืือเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นมากกว่าเกล็ดเลือดในกระแสเลือดทั่วไป ( ประมาณ 3-4 เท่า) ซึ่งเป็นเป็นเกล็ดเลือดเข้มข้นมากๆ สามารถนำมาใช้ในการรักษาผิวที่มีปัญหาได้
ในช่วงที่นำเกล็ดเลือดออกนั้น ไม่เป็นอันตรายค่ะ คุณหมอจะใช้เข็มหัวทู่ในระหว่างที่ทำการเจาะเลือด เพื่อนำมาปั่นสกัดนั้น จะใช้เข็มหัวทู่ เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือเกิดความเสียหาย และใช้สาร anticoagulant citrate dextrose (ACD-A) ช่วยร่วมด้วย เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด ซึ่งคุณหมอจะทำการสกัดเลือดของเราออกมาก่อน จากนั้นจึงใช้เครื่อง Centrifuge เพื่อทำการแยกส่วนของเลือด และน้ำออกจากกัน ออกมาเป็นเกล็ดเลือดที่เข้มข้น และสมูบรณ์แบบที่สุด ซึ่งจะมีเกล็ดเลือดที่ไม่เข้มข้น เซลล์เม็ดเลือดขาว เซลล์เม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP จะต้องเท่ากับ 5-7 มิลลิกรัม)
การฉีด PRP จะเป็นการฉีดเกล็ดเลือดของตัวเราเอง เพื่อเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ เสริมสร้างโปรตีนให้กับผิว ช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดแดงรวมไปถึงเซลล์ต้นกำเนิดด้วย ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ กลับมายืดหยุ่น มีคอลลาเจนใต้ผิวอีกครั้ง และยืดหยุ่นดีอีกครั้ง หากนำไปฉีดเข้าที่หนังศีรษะ ก็จะช่วยให้หนังศีรษะกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง กระตุ้นให้การเจริญเติบโตของเส้นผม (ช่วยรักษาอาการผมร่วง)
ทรีทเมนท์นี้ เหมาะสำหรับคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีปัญหาเรื่องริ้วรอยตามส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ลำคอ หรือตามผิวพรรณบนร่างกายก็ได้เช่นกัน
โดยปกติเเล้ว เราจะเห็นผลลัพธ์หลังทำไปแล้ว 2 สัปดาห์ แต่ระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ ก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งสำหรับการทำ 1 ครั้งจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปีเลยทีเดียว
เราไม่ต้องดูแลตัวเองมากมายเลยค่ะ หลังจากที่ทำเเล้ว ยังสามารถล้างหน้าและอาบน้ำได้เลย ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ดูแลตามปกติก็เพียงพอ
นอกจากนี้ การฉีด PRP ก็ยังสามารถทำร่วมกับการทำสวยอื่นๆ ได้ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นการยิงเลเซอร์ การทำ Radio Frequency และ Fat Injection จึงถือว่าเป็นทรีทเมนท์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตอนนี้ค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com