ปัจจุบันการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์  และแนวโน้มความใส่ใจต่อสุขภาพความงาม  และเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพ  การทำศัลยกรรมตกแต่งจึงเป็นเรื่องปกติธรรมดา  ที่เกิดขึ้นได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย  ในอดีตผู้หญิงจะทำศัลยกรรมตกแต่งกันมาก  ปัจจุบันผู้ชายก็หันมาใส่ใจดูแลตัวเองและทำศัลยกรรมมากขึ้น 

01

การทำศัลยกรรมตกแต่ง  และความงามของผู้ชาย  ก็จะแบ่งตามช่วงอายุ  ได้แก่

  1. วัยทำงาน
    อายุประมาณ 25- 39 ปี
  1. วัยกลางคน
    อายุประมาณ 40 – 54 ปี
  2. วัยสูงอายุ
    อายุประมาณ 55 ปีขึ้นไป

 

ซึ่งในแต่ละวัย  การทำศัลยกรรมตกแต่ง  จะแตกต่างกันออกไปตามโครงสร้าง  สรีระร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย  หรือขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์อื่นๆ  ของผู้ต้องการการทำศัลยกรรมตกแต่งอีกด้วย

 ลักษณะกล้ามเนื้อและไขมัน ของใบหน้าวัยทำงานและวัยสูงอายุ

02

วัยทำงาน การทำศัลยกรรมในวัยทำงาน  25 – 39  ปี  เป็นวัยที่กำลังเริ่มต้นทำงาน  กำลังสนุกกับการทำงานและการใช้ชีวิตที่โลดโผน  กำลังค้นหาความเป็นตัวตนของตนเอง  ชอบท่องเที่ยว  ออกกำลังกาย  มีความต้องการ  เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี  สร้างความมั่นใจให้ตนเอง  ให้เพื่อนและสังคมยอมรับ  สิ่งที่อยากทำคือ

ศัลยกรรมใบหน้า  เพื่อเพิ่มความหล่อเข้ม  และเพิ่มความสมดุล  แก้ไขส่วนที่บกพร่องบนใบหน้า  เสริมสร้างจุดเด่นให้ดูดียิ่งขึ้น   เช่น ตาสองชั้น, เสริมจมูกให้โด่ง, เสริมกรามให้ดูมาดเข้ม

ศัลยกรรมรูปร่าง  อยากมีรูปร่างดี  แข็งแรง  เห็นกล้ามที่หน้าอกเป็นมัดๆ  ไหล่กว้าง  มีกล้ามเนื้อที่แขนบ้าง  เอวต่ำ  สะโพกแคบ  ลำตัวจะมีรูปร่างเป็น  “V-shape”  ซึ่งต้องออกกำลังกายอย่างหนักเท่านั้นจึงจะเกิดรูปร่างแบบนั้นได้  แต่การทำศัลยกรรม “Six Pack”   ช่วยให้เกิดรูปร่างที่ดี  มีกล้ามเป็นมัดๆ  ที่หน้าท้อง และแผ่นหลัง  ต้นขา  ดูกระชับได้  โดยไม่จำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายอย่างหนัก  เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาออกกำลังกายน้อยให้บรรลุเป้าหมายได้

 

วัยกลางคน : การทำศัลยกรรมในวัยทำงาน  40 – 55  ปี  เป็นวัยที่ทำงานมาเยอะ  และในขณะเดียวกันก็เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ  และการสะสมของไขมัน ที่ใบหน้า ลำคอ หน้าท้อง ลำตัว แขน ขา   

ศัลยกรรมใบหน้า   เราจะพบว่าใบหน้าที่ดูอวบอิ่มก็จะเริ่มเหี่ยวย่น  เนื่องจากไขมันที่ใบหน้าเริ่มสลายไปบางส่วน  ผิวหนังที่เคยเปล่งปลั่งก็จะเริ่มหม่นหมองและมีริ้วรอย  กล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย  หนังตาบน  และหางตาตก  เห็นลายเส้นที่หน้าผากและหว่างคิ้วชัดเจน  เห็นร่องจมูก มุมปากเริ่มตก มีรอยเหี่ยวย่นที่ปากและขากรรไกร  ซึ่งปัญหาเหล่านี้  สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดดึงหน้าโดยยกแก้มทั้งสองข้างขึ้น  ทำตาสองชั้น เก็บหนังส่วนเกินออก เก็บริ้วรอยที่หน้าผากเล็กน้อย ก็จะทำให้ดูมีใบหน้าดู อ่อนเยาว์ลงมากกว่า  10 ปี

ศัลยกรรมรูปร่าง  ในวัยนี้ไขมันที่สะสมที่หน้าท้อง จะหนามากขึ้น  บางท่านจะมีไขมันสะสมทั้งใต้กล้ามเนื้อหน้าท้อง และเหนือกล้ามเนื้อหน้าท้อง ต้นขาเป็นปริมาณมาก  เหมือนลูกบอลที่ต้องแบกติดตัวไปตลอดเวลา สามารถปรับรูปร่างใหม่ได้ด้วยการทำ Body  sculpture surgery  โดยปรับแต่รูปร่างใหม่ทั้งหมด ให้กลับมาดูมีรูปร่างดีดังเดิม

03

 

วัยสูงอายุ  : การทำศัลยกรรมใบหน้าในกลุ่มสูงวัย  อายุประมาณ  55  ปีขึ้นไป   เป็นวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาว มาเยอะ  ความต้องการหลักๆ  คือมีใบหน้าที่จะดูอ่อนเยาว์  ซึ่งเมื่อย่างอายุ 50 ปี  ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นจะเป็นมากขึ้น   เนื่องจากไขมันที่อยู่บนใบหน้าโดยเฉพาะที่โหนกแก้ม  ได้สลายไปมากขึ้นทำให้โหนกแก้มยุบลง  หนังและหางตาตกมากขึ้น  ผิวหนังบริเวณโหนกแก้มตกลงมาอยู่ที่บริเวณเหนือมุมปาก  ผิวหนังบริเวณขากรรไกร  คาง  ใต้คาง มีรอยย่นเพิ่มมากขึ้น  ขณะเดียวกันที่คอก็มีรอยย่นเกิดขึ้นด้วย  อาจจะมีไขมันมาสะสมใต้คางทำให้เกิดมีเหนียงใต้คาง  ปริมาณของเหนียงขึ้นกับอายุที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน  และก็เช่นกันที่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้  ด้วยการผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ  เก็บถุงใต้ตา  ตาบน  เป็นต้น

ศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า
1. การศัลยกรรมเสริมจมูกให้โด่ง หรือแก้ไขเรื่องทรงจมูกให้ได้รูปทรงสวยงาม
2. การศัลยกรรมตกแต่งตาสองชั้น   และแก้ไขปัญหาตาตก
3. การศัลยกรรมตกแต่งเสริมคางในผู้ชาย
4. การศัลยกรรมตกแต่งตัดกราม หรือเสริมกรามเพื่อให้มีโครงหน้าสมบูรณ์แบบแมนๆ
5. การศัลยกรรมยุบโหนกแก้ม   หรือเสริมโหนกแก้ม
6. การศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก
7. การศัลยกรรมแก้ไขหูกาง
8. การศัลยกรรมดึงหน้า

ารศัลยกรรมตกแต่งรูปร่าง
1 การศัลยกรรมดูดไขมัน ทำ Six pack และ V-shape

2 การศัลยกรรมเพิ่มขนาดอวัยวะเพศผู้ชาย

สิ่งต้องคำนึงถึงก่อนการทำศัลยกรรม
1. ใครคือแพทย์ที่จะให้การดูแลเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือไม่(ดูรายชื่อจากสมาคม ศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย )

2. สถานพยาบาล ต้องถูกกฎหมายมีใบรับรองอย่างถูกต้องหรือไม่ มีเลขที่ใบอนุญาตหรือไม่
3. มีเครื่องมือแพทย์ครบ ที่จะคอยดูแลความปลอดภัยในการผ่าตัด สถานที่สะอาด ปลอดเชื้อ
4. หาข้อมูลให้มากๆเพราะสื่อปัจจุบันมีทั้งของจริง และสื่อที่ปั่นขึ้นมาควรไปปรึกษาแพทย์และสอบถามข้อมูล ดูสถานที่ก่อนตัดสินใจ

ารศัลยกรรมทุกอย่าง  เป็นเพียงตัวช่วยให้เราสามารถสร้างความมั่นใจ  ว่าตนเองดูดี  ดูหล่อในแบบที่ต้องการ  แต่ถ้าหากเราไม่รู้จักเลือก  ไม่ศึกษา สิ่งที่ตามมาอาจจะเป็นผลเสียก็เป็นได้   ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกทำศัลยกรรมชนิดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม   ต้องศึกษาหาข้อมูลกันให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเพราะ  “อยากหล่อ  ต้องไม่เสี่ยง”
บทความ  : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
Website : www.kamolhospital.com
Fan page : www.facebook.com/kamolcosmetichospitalthai
Instargram : Kamolhospital
Line : Kamolhospital
E-mail : [email protected]
Call Center : 02-559-0155
YouTube : http://www.youtube.com/kamolcosmetichosp

โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล
340 ลาดพร้าว 94 ถ.ศรีวรา วังทองหลาง กรุงเทพ 10310 โทร. 02-559-0155 แฟกซ์ 02-559-2808
เปิดทำการทุกวัน

เรื่องน่าสนใจ