เมื่อวันที่ 12 เมษายน พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท. เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มธุรกิจขายตรงหลอกลวงขายทัวร์ราคาถูกไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น มีผู้ตกเป็นเหยื่อประมาณ1,000คน ถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 11 เมษายน เวลาประมาณ 20.00 น นั้นว่า ขณะนี้จากการสอบถามผู้เสียหายและการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียหายทั้งหมดถูกหลอกโดยบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งว่า หากซื้อสินค้าครบตามจำนวนเงินจะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นได้ โดยมีการเช่าเหมาลำเครื่องบินไว้จำนวน 6 เครื่อง แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับพบว่าไม่มีเที่ยวบินอย่างที่ได้มีการแจ้งไว้ทำให้มีผู้เสียหายตกค้างที่สนามบินจำนวนมาก เบื้องต้นตำรวจท่องเที่ยวได้แนะนำให้ผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางกลับภูมิลำเนาไปก่อน และเข้าแจ้งความที่สน.ในพื้นที่ที่พักอาศัยอยู่ หรือเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน เพื่อให้พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามสอบสวนรายละเอียดข้อมูล ก่อนดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหา คือ เจ้าของบริษัทขายตรงดังกล่าว ทั้งนี้พบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการหลอกผู้เสียหายมาแล้วหลายครั้ง โดยวันนี้น่าจะมีผู้เสียหายประมาณ 30 คนจะเข้าไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามเป็นชุดแรกก่อน จากนั้นจะมีชุดอื่นๆทยอยเข้าไปแจ้งความเพิ่มเติม ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะมีการประสานให้ตำรวจในแต่ละพื้นที่ส่งข้อมูลการสอบสวนผู้เสียหายเข้ามาที่กองปราบปรามเพื่อรวมดำเนินคดีที่เดียว
พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าคดีนี้น่าจะมีมูลค่าความเสียหายรวมมากกว่า10 ล้านบาท และเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่รอเดินทางในวันอื่นๆอีกจำนวนมากกว่านี้อีกหลายร้อยคน เบื้องต้นจากการติดต่อไปที่บริษัทดังกล่าวพบว่ามีการประกาศยกเลิกการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในทุกรอบเที่ยวบินแล้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ร่วมลงทุนกับบริษัทขายตรงดังกล่าวเข้าแจ้งความกับตำรวจทันที
รายงานว่าชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้รับเรื่องข้อมูลจากผู้เสียหายจำนวนหนึ่งและทราบตัวของคนร้ายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนว่าตัวผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ใดก่อนจะเข้าไปดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดี จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่าเจ้าของบริษัทดังกล่าวมีหมายจับในคดีฉ้อโกงหลายหมาย แต่มีการยอมความกันไป เนื่องจากมีการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย จึงมีการถอนคดี