พบพินัยกรรม‘สมเด็จพระสังฆราช’ทรงมีพระลิขิตไว้ ตั้งแต่ยังเป็น‘พระโศภณคณาภรณ์’ เมื่อพระชนมายุ 36 พรรษา ระบุถวายเครื่องบริขารทั้งหมดคืนวัด ค้นพบเป็นครั้งแรก ระหว่างรวบรวมเอกสารสำคัญ เพื่อจัดพิมพ์ลงในหนังสือพระประวัติ…

EyWwB5WU57MYnKOuXqznCWXpwwzmteFCc0iB8YIAT9JyP6fK0ncHMa

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิล ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางวัดกำลังเร่งเตรียมการงานเอกสาร หนังสือที่จะนำมาแจก และความพร้อมทางด้านต่างๆ ในการจัดงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 15-17 ธ.ค.นี้ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และที่เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการประชุมหารือกันอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ในส่วนของหนังสือพระประวัติของสมเด็จพระสังฆราช จะเป็นหนึ่งในหนังสือที่จะมีการแจกในพิธีพระราชทานเพลิงศพนั้น จะเป็นหนังสือที่รวบรวมพระประวัติของสมเด็จพระสังฆราชทั้งหมด ทั้งยังมีการรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆที่เกี่ยวกับพระองค์มามาตีพิมพ์ลงในหนังสือพระประวัติด้วย

ทั้งนี้ ในระหว่างที่ทีมงานจัดทำหนังสือพระประวัติกำลังรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆเกี่ยวกับสมเด็จพระสังฆราช ที่พระตำหนักคอยท่าปราโมช วัดบวรนิเวศวิหาร อยู่นั้น ได้พบเอกสารสำคัญที่ยังไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน ซึ่งก็คือ ‘วินัยกรรม ชีวิตา’ หรือ พินัยกรรมของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งพระองค์ทรงลิขิตไวด้วยลายพระหัตถ์ของพระองค์เอง ลงบนกระดาษ 1 แผ่น ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 2492 ขณะที่ทรงมีพระชนมายุ 36 พรรษา ดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญที่พระโศภณคณาภรณ์

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวว่า จากนั้นเมื่อพระองค์ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรฯ ในขณะที่ดำรงสมณศักดิ์รองสมเด็จพระราชาคณะที่ พระสาสนโสภณ ก็ได้มีการแก้ไขพินัยกรรมดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2509 สำหรับเนื้อหาสำคัญของพินัยกรรมดังกล่าว ระบุไว้ชัดเจนว่า บริขาร (เครื่องใช้ของพระสงฆ์) ทั้งปวงของพระองค์ หากอยู่ที่วัดบวรฯ ให้ถวายแด่พระกรรมการวัดบวรฯ หากอยู่ที่วัดเทวสังฆาราม จ.กาญจนบุรี ให้ถวายแด่ท่านเจ้าอาวาส และพระเถระผู้รองลงมาอีก 3 รูป

นอกจากนี้ หากอยู่ที่ผู้ใดที่ไหนให้แก่ผู้นั้นที่นั้น ทั้งนี้ จากพินัยกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการดำเนินชีวิตของพระองค์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับคนรอบข้างหากต้องจากโลกนี้ไป

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเตรียมงานการเชิญพระศพจากวัดบวรฯ สู่วัดเทพศริรินทร์ในวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 09.00น.นั้น ล่าสุดฝ่ายเลขานุการจัดงานพระราชทานเพลิงศพ เห็นสมควรกำหนดวันซักซ้อมขบวนพระราชอิสริยยศงานพระศพ 5 ครั้ง แบ่งเป็นซ้อมย่อย 2 ครั้ง ในวันที่ 9-13 พ.ย. และวันที่ 16-30 พ.ย. ที่ลานอเนกประสงค์ กองทัพภาคที่ 1 และซ้อมใหญ่ 3 ครั้ง ในวันที่ 29 พ.ย. วันที่ 7 ธ.ค. และวันที่ 10 ธ.ค. โดยจะทำการซ้อมยังพื้นที่จริงที่จะใช้ในการเชิญพระศพ

ด้านนายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 102 ปี นับตั้งแต่ประสูติกาล และครบ 2 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ ในการบำเพ็ญพระกุศลเนื่องในโอกาสดังกล่าว วันที่ 3-25 ต.ค. 2558 โดยวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ วัดบวรฯ จัดงานบำเพ็ญกุศลตั้งแต่เวลา 06.00 น. จากนั้นเวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ในการบำเพ็ญกุศล ณ ตำหนักเพ็ชร

ส่วนวันที่ 24 ต.ค. เวลา 13.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงหล่อพระรูป สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ลานพระอุโบสถ วัดบวรฯ และวันที่ 25 ต.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการบำเพ็ญพระกุศลครบ 2 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ ณ ตำหนักเพ็ชร.

เรื่องน่าสนใจ