พฤติกรรมการบริโภคที่ให้ประโยชน์และโทษต่อร่างกาย รู้ไว้ไม่เสียหาย เพราะการกินอาหารเข้าไปในร่างกายนั้น มีทั้งคุณและโทษ ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณทานเข้าไปนั้นมีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราจะต้องมาทําความรู้จักกันค่ะ
ร้านขายอาหารที่มีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะตั้งอยู่ริมถนนหรือในอาคาร ล้วนเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องนึกถึงเวลาหิว รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารจานด่วน และอื่นๆ อีกหลายร้าน กลายเป็นแหล่งปากท้องที่สําคัญของคนเมือง (ไม่นับรวมการทําอาหารทานเองที่บ้าน) ทําให้การบริโภคอาหารมีความสะดวกสบายและประหยัดเวลา ส่งผลถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนหมู่มาก ที่ถือความสะดวกสบายเข้าว่า โดยมองข้ามเรื่องของสุขอนามัย และวิธีที่ถูกต้องในการบริโภคอาหารในแต่ละมื้อไป
เพราะความเร่งรีบ ถือความสะดวกสบายเข้าว่านี่เอง ก่อให้เกิดโทษมากมายที่เกี่ยวข้องกับการกิน นักวิชาการได้ชี้ชัดว่า การทานอาหารของคนเรา นิยมทานอาหารที่มีส่วนประกอบทั้งแป้ง น้ำตาล และมีไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก ส่งผลให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจได้ เพราะอาหารจานด่วนนี้ มักมีส่วนประกอบของแป้งเป็นหลัก ที่มากไปด้วยไขมันและน้ำตาลเกินความต้องการที่จําเป็นของร่างกายเรา
กินตามใจปาก
ในหนึ่งวัน คุณเคยนับชนิดและปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปไหมคะ เชื่อว่าหลายคนตอบว่า “ไม่” ไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ เพราะธรรมชาติของคนเรา เมื่อหิวก็ต้องกิน เมื่อกินก็ต้องให้อิ่ม ปัญหาอยู่ที่ความพอดีนั่นเอง เชื่ออีกเช่นกันว่า หลายคนกินจนลืมไปว่าจะอิ่มเมื่อไหร่ เพราะความหิว ความอยาก เห็นอาหารน่าทานหมดทุกอย่าง เวลาตักหรือสั่งอาหารกลัวว่าจะไม่อิ่ม จึงเน้นปริมาณมากเข้าไว้ ซึ่งเวลาทาน สมองของเราจะให้เวลาประมาณ 15 นาทีในการรับรู้ว่าอิ่ม กว่าจะรู้สึกตัวก็ทานจนพุงกางแล้ว อันตรายมากทีเดียว เพราะร่างกายของเรามีลิมิตในการรับสารอาหารเข้าไปในแต่ละวัน ในหนึ่งวันร่างกายต้องการพลังงานจากสารอาหารวันละ 1,600-2,800 กิโลแคลอรี่ หากร่างกายได้รับสารอาหารมากเกินควร สารอาหารที่เหลือจะกลายเป็นไขมันส่วนเกิน ผลที่ตามมาจึงหนีไม่พ้นโรคอ้วน ฉะนั้น ต้องเลือกทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ และมีคุณค่าต่อร่างกายจะดีที่สุด
กินเพราะสะดวกปาก สบายท้อง
คนยุคนี้ คุ้นเคยกับอาหารจานด่วนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในมื้อเช้าเป็นมื้อที่สําคัญที่สุด ควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน แต่ด้วยความเร่งรีบและเพื่อความสะดวก อะไรบ้างล่ะ ที่คนส่วนใหญ่มักจะทานเข้าไป เมื่อเปรียบเทียบความต้องการพลังที่เพียงพอต่อการใช้งานของร่างกายแล้ว ยังถือว่าอาหารเหล่านี้ยังให้พลังงานที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละมื้อ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ทานอาหารที่กล่าวมานี้ แต่ควรทานอาหารเช้าให้ครบทั้ง 5 หมู่ และได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน จะเป็นผลดีต่อสุขภาพมากกว่า เพราะถ้าสิ่งที่ทานเข้าไปมีสัดส่วนไม่สมดุลกับความต้องการของร่างกาย มีแนวโน้มว่าจะได้รับสารอาหารบางประเภทเข้าไปมากจนเกินควร โดยเฉพาะแป้ง และไขมัน ที่เป็นบ่อเกิดบรรดาโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดตีบ และโรคมะเร็ง
ของชอบมักให้โทษ
อาหารจานโปรดของคุณคืออะไรคะ? ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง อาหารประเภทนี้มีไขมันในปริมาณที่สูง เพราะฉะนั้น บางครั้งของที่ใจเราชอบ ร่างกายเราอาจจะไม่ชอบเอาเลยก็ได้ หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคซะใหม่ โดยเห็นถึงคุณค่าที่มีต่อร่างกาย ดีกว่าคุณค่าที่มีต่อความชอบใจ เพราะอายุไม่ได้ยืนตามความชอบใจ แต่อายุจะยืนตามความแข็งแรงของร่างกาย
หวานเป็นลม ขมต้องหนีห่าง
ของหวาน ช่างถูกปากถูกใจของคนเรา โดยเฉพาะเด็กๆ และผู้ใหญ่บางคน คนที่ชอบทานหวาน เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานมากกว่าคนทานปกติ โดยเฉพาะในหมู่คนที่เป็นโรคอ้วนอยู่แล้ว ยิ่งชอบทานหวานเข้าไปด้วย มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานสูงมาก จากการที่น้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ทําให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น เกินระดับที่ร่างกายต้องการ การกินน้ำตาลมักทําให้อารมณ์ดี กระปรี้กระเปร่า โดยเฉพาะในขณะที่หิวมากๆ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ เราจะติดความหวานโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเด็กจะติดความหวานมากกว่าผู้ใหญ่ การทานหวานในปริมาณมากๆ จะทําให้เกิดโรคอ้วนได้ เช่นเดียวกับการทานไขมัน เพราะน้ำตาลที่เข้าไปในร่างกาย สามารถเปลี่ยนเป็นไขมันได้
••••••••••••••••
หากเลิกของหวานหลังมื้ออาหารไม่ได้ แนะนําให้ทานผลไม้แทน เพราะผลไม้มีน้ำตาลฟรุกโตส เป็นน้ำตาลที่มีประโยชน์ สามารถนําไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้ดีกว่า ไม่กระตุ้นความอยากอาหารทําให้การทานอาหารลดลง ไม่ทําให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเหมือนซูโคส ซึ่งไม่ทําให้ร่างกายต้องทํางานหนักจนเกินไป และผลไม้บางชนิดมีกากใยอาหารช่วยในการขับถ่ายด้วย
เนื้อหาโดย Dodeden.com
