ที่มา: Doctor.or.th

ฟักทองมีคุณค่าทางอาหารสูงแต่ให้พลังงานต่ำ จึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องควบคุมอาหารชื่อวิทยาศาสตร์ Cucurbita moschata Duchesne  ชื่อสามัญ Winter squash, Buttercup squash  หรือ Pumpkin

24-03

ขอขอบคุณภาพจาก Trgreen.co.th

ผลฟักทอง
มีลักษณะทรงแบนสีเขียวเข้ม หนัก ๑-๒ กิโลกรัม เนื้อในสีเหลืองส้ม
– ประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบอาหารจากผลสุกฟักทองนี้หลายชนิด โดยอบ ย่าง และบดใส่ซุปเหมือนกับฟักทองฮัลโลวีน
– ประเทศบราซิลและแอฟริกานิยมปรุงเป็นซุป
– ประเทศญี่ปุ่นนำมาชุบแป้งทอดเป็นเทมปุระ
– ประเทศไทยนำมาประกอบอาหารโดยผัดใส่ไข่ ทำแกงเผ็ดฟักทองน้ำข้นมีรสดี ฝานบางอบแห้งทำข้าวเกรียบ หรือบรรจุด้วยสังขยานึ่งเป็นขนมหวาน สามารถนำเนื้อไปทำขนมพายได้เหมือนฟักทองฮัลโลวีน เนื่องจากฟักทองมีคุณค่าทางอาหารสูงแต่ให้พลังงานต่ำจึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องควบคุมอาหาร

น้ำจากเนื้อฟักทองลดน้ำตาลในเลือด
งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนพบว่า น้ำตาลโพลีแซ็กคาไรด์ที่ตรึงกับโปรตีนในเนื้อฟักทองมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด น้ำตาลดังกล่าวละลายได้ในน้ำคั้นผลฟักทอง  เมื่อทดสอบกับหนูที่เป็นเบาหวานจากสารอัลล็อกซาน พบว่า น้ำตาล-โปรตีนดังกล่าวเพิ่มระดับอินซูลินในซีรั่ม ลดระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มการทนกลูโคส (glucose tolerance) สารสกัดน้ำตาลดังกล่าวในปริมาณ ๑,๐๐๐ มก./กก. น้ำหนัก ให้ผลดีกว่าการให้ปริมาณต่ำๆ และดีกว่ากลุ่มที่ได้รับยาเบาหวาน จึงสามารถนำผลการศึกษาไปใช้กับผู้ป่วยเบาหวานได้

24-04

ขอขอบคุณภาพจาก bansuanporpeang

เมล็ดฟักทองบรรเทาต่อมลูกหมากโต
น้ำมันเมล็ดฟักทองเป็นส่วนประกอบของยาพื้น-บ้านที่ใช้ดูแลสุขภาพต่อมลูกหมาก มีงานวิจัยสนับสนุน ประสิทธิภาพการใช้เมล็ดฟักทองรักษาอาการต่อม     ลูกหมากโต (benign prostatic hyperplacia) ชายวัย ๕๕ ปี ขึ้นไปอาจมีต่อมลูกหมากโตและแข็ง กดท่อปัสสาวะได้ และกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะไม่แข็งแรงพอจะบีบต้านแรงกดของต่อมลูกหมาก จึงทำให้เกิดมีอาการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ โรคนี้อาจพบได้ประมาณร้อยละ ๑๐ ของผู้ชายสูงอายุ

งานวิจัยสารสกัดเมล็ดฟักทองกับการทำงานของแอนโดรเจน รีเซปเตอร์ซึ่งมีผลควบคุมการเจริญของต่อมลูกหมาก จากใช้สารสกัดเมล็ดฟักทองกับชุดตรวจวัดแอนโดรเจน รีเซปเตอร์ รีพอร์ตเตอร์ยีน พบว่าสารสกัดจากเมล็ดฟักทองมีผลต้านฤทธิ์แอนโดรจีนิก (antiandrogenic effect) จริง การบริโภคเมล็ดฟักทองจึงอาจมีผลดีต่อผู้ที่มีอาการต่อมลูกหมากโตได้

ฟักทองกับความงามผิวพรรณ
เอนไซม์จากเนื้อฟักทองบด (รวมเมล็ด) มีความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีสารต้านออกซิเดชั่น วิตามิน และแร่ธาตุ จำเป็นที่ผิวต้องการ เมล็ดฟักทองมีวิตามินอี กรดไขมันไม่อิ่มตัว และสเตอรอล จึงช่วยในการรักษาความชุ่มชื้น และซ่อมแซมผิว

เรื่องน่าสนใจ