โดดเด่นเห็นว่า หลัง ๆ มานี้มีคนที่มีปัญหาเรื่องการฉีดฟิลเลอร์เยอะมากขึ้น เลยอยากจะมาบอกว่าฟิลเลอร์นั้นควรใช้ที่ใด และไม่ควรใช้ที่ใด
อย่างที่รู้ ๆ กัน ฟิลเลอร์ (Filler) มีคุณสมบัติในการยกผิวให้เต็ม จึงใช้ปริมาณเล็กน้อยก็สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้ดี Filler แก้ปัญหาริ้วรอยและร่องรอยที่เกิดจากการเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินที่น้อยลง ตามวัย ซึ่งไม่ได้เกิดจากการแสดงสีหน้า หมายถึงการทำหน้าเฉย ๆ ก็สามารถเห็นริ้วรอยนั้น ๆ เช่น ร่องแก้มลึก ฉีดเติมเต็มแก้ม ร่องลึกใต้ตา ร่องลึกระหว่างคิ้ว ร่องหน้าผาก
แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดดเด่นเห็นว่า คลินิกได้นำฟิลเลอร์ไปใช้ผิดที่ผิดทาง นั่นคือ ไปฉีดที่จมูก เพื่อให้โด่ง สวยงามขึ้น ฉีดคาง เพื่อให้คาง ได้รูปมากขึ้น ซึ่ง จริง ๆ ผิดหลักการใช้ของฟิลเลอร์ เพราะว่า ฟิลเลอร์ไม่คงรูป เนื่องจากมีสภาวะเหมือนน้ำ สามารถที่จะไหลไปส่วนอื่นได้
แรก ๆ ฉีดจะดูดี หลังจากนั้น พอฟิลเลอร์เริ่มสลาย การสลายจะไม่พร้อมกันครับ บริเวณหนึ่งอาจจะสลายเยอะ อีกบริเวณหนึ่งอาจจะสลายน้อย จึงทำให้ต้องไปฉีดเพิ่มอีก ทีนี้การฉีดเพิ่ม ก็จะดันฟิลเลอร์ที่เดิมให้ต่ำลง ตามแรงโน้มถ่วงโลก ฉะนั้นหมอที่ฉีดก็ต้องปั้น ต้องจับให้ได้ทรงเดิม
แต่จริง ๆ แล้วมันก็ไม่กลับไปทรงเดิมทีเดียวหรอก ฟิลเลอร์เก่าที่ค้างก็จะเริ่มไหลลงมาอยู่ดี ซึ่งสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง เช่น ที่ปลายจมูกจะดูโต ๆ บวม ๆ ไม่สวยเหมือนฉีดครั้งแรก ส่วนคางจะดูป้าน (กว้างขึ้น) ในบางรายจะดูแหลมผิดรูป
ถ้าคิดว่าจะอยากได้จมูกที่โด่งขึ้น หรือคางที่ดูได้รูป โดดเด่นแนะนำว่า เสริมโดยใช้ซิลิโคนเลยดีกว่า อีกอย่างถ้าฟิลเลอร์เกิดการอักเสบขึ้นมาก็แก้ไขยากกว่าเสริมโดยใช้ซิลิโคนอีกด้วย