ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ (12 กรกฎาคม 2560) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล กทม. พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และพลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงข่าว “การขยายเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทยรวม 90 วัน สำหรับผู้ป่วยและผู้ติดตามกรณีเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล ในกลุ่มประเทศ CLMV และสาธารณรัฐประชาชนจีน และการขยายระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทยสำหรับกลุ่มพำนักระยะยาว (Long Stay Visa)”
โดยมี ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เอกอัครราชทูต ผู้แทนจากสถานทูต 19 ประเทศที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงแรงงาน รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนร่วมการแถลงข่าว
รัฐบาลได้ส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลก มุ่งเน้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้าน Medical & Wellness Tourism และก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก
มอบให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2560 – 2569) ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว เพื่อยกระดับมาตรฐานบริการทางการแพทย์สู่สากลและอำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติ
โดยพัฒนาศักยภาพของสถานบริการสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชนทุกระดับทั่วประเทศ ให้มีความพร้อมในการจัดบริการสุขภาพแบบครบวงจร มีมาตรฐานระดับสากล Joint Commission International (JCI) และHospitals Accreditation (HA) รวมทั้งรับรองมาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้มีคุณภาพมาตรฐานสากลรองรับผู้เข้ารับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ
เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายดังกล่าว คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการขยายระยะเวลาการพำนักในประเทศไทยรวม 19 ประเทศซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง โดยออกเป็นประกาศกระทรวงมหาดไทยภายใต้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 คือ 1.ยกเว้นวีซ่าเพื่อการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยและผู้ติดตาม รวมไม่เกิน 4 ราย ในกลุ่มประเทศ CLMV และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งในแต่ละปีเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
โดยขยายระยะเวลาเป็น 90 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนที่มีมาตรฐาน เริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และ2.ขยายวีซ่าแบบพำนักระยะยาว (Long Stay Visa) สำหรับชาวต่างชาติที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เริ่มระยะแรกใน 14 ประเทศ
ได้แก่ อังกฤษ อเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นอร์เวย์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ อิตาลี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และแคนาดา ขยายเวลาเป็น 10 ปี จากเดิมมีระยะเวลาครั้งละ 1 ปี โดยครั้งแรกจะได้รับวีซ่า 5 ปี และสามารถต่ออายุวีซ่าอีก 5 ปี ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งรวมถึงคู่สมรสและบุตรอายุไม่เกิน 20 ปี ซึ่งการอำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติพำนักในไทยได้นานขึ้น จะนำไปสู่การสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มมากขึ้น