ที่ประชุมการสื่อสารวิทยุโลกของยูเอ็นเห็นชอบใช้คลื่นความถี่ติดตามเครื่องบินทั่วโลก ป้องกันเหตุหายสาบสูญเหมือน MH370
วันนี้ (13 พ.ย. 58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่ประชุมการสื่อสารวิทยุโลก หรือดับเบิลยูอาร์ซี(WRC) ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เห็นชอบให้มีการใช้คลื่นความถี่ในระบบการติดตามเครื่องบินทั่วโลก เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับที่เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 หายสาบสูญ ในระหว่างบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่งของจีนเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งการเห็นชอบของที่ประชุมครั้งนี้ ทำให้ดาวเทียมจะได้รับสัญญาณระบบติดตามอากาศยานอัตโนมัติ(เอดีเอส-บี) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เครื่องบินส่งสัญญาณดังกล่าวให้แก่เครื่องบินลำอื่น และสถานีภาคพื้นดิน
นายเฟสตัส ยูซูฟู นาไร ดาอูดู ประธานที่ประชุมการสื่อสารวิทยุโลก กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบินจะต้องมีมาตรการส่งเสริมความปลอดภัย พร้อมด้วยระบบติดตามเที่ยวบินทั่วโลกในเวลาจริงเท่านั้น นายดาอูดู กล่าวอีกว่า การขยายสัญญานเอดีเอส-บี จะช่วยรายงานถึงตำแหน่งของเครื่องบินที่ติดอุปกรณ์เอดีเอส-บีในพื้นที่ห่างไกลทั่วโลก และเมื่อก่อน เครื่องบินที่กำลังบินผ่านเขตอาร์กติก จะไม่สามารถติดตามได้ แต่ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะติดตามเครื่องบินทุกลำในโลกด้วยดาวเทียม
ทั้งนี้ หลังจากเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินเอ็มเอช 370 หายไปอย่างไร้ร่องรอย ปรากฎว่า สายการบินและฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบิน ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการรับมืออย่างล่าช้าเกินไปต่อคำแนะนำให้ติดอุปกรณ์ติดตามเครื่องบินของฝรั่งเศส ภายหลังเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ประสบเหตุตกเมื่อปี 2552
อย่างไรก็ตาม องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ไอซีเอโอ) ได้ขีดเส้นตายสำหรับการใช้ระบบติดตามเครื่องบินแบบใหม่เอาไว้ในเดือนพ.ย.ปี 2559 รวมทั้งเครื่องบินทุกลำต้องรายงานระบุตำแหน่งทุกๆ 15 นาที หรือรายงานให้มากกว่านี้ ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน