รวบพ่อเลี้ยงหื่นกามกลางแคมป์ก่อสร้าง หลังก่อเหตุข่มขืน ทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง วัย 6 ขวบ แม่แท้ๆ เผย จำทนเป็นเมียน้อยเพราะจน เมื่อรู้ลูกถูกข่มขืนรีบส่งไปอยู่กับญาติทันที จนท.ลั่น! แม่ไม่มีความพร้อม นำตัวเด็กไปมูลนิธิฯ รับเลี้ยง
เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 17 พ.ย. พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นำกำลังควบคุมตัว นายชาญ (นามสมมติ) อายุ 54 ปี บ้านอยู่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี มาสอบสวน หลังก่อเหตุข่มขืน ลูกเลี้ยงภรรยาน้อยวัย 6 ขวบ ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง กระทั่งน้าสาวทราบเรื่อง พาเข้าแจ้งความดำเนินคดี เบื้องต้นให้การรับสารภาพก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง
เหตุดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประยุทธ แพรปรุ พงส.สภ.โพธิ์กลาง ว่า ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวที่พึ่งมาอยู่ด้วยได้ไม่นาน เล่าให้ฟังว่าถูก นายชาญ พ่อเลี้ยง ซึ่งเป็นช่างรับเหมาทำประปา และเดินสายไฟฟ้า ล่วงละเมิดทางเพศ เหตุเกิดที่แคมป์คนงาน ในเขตตัวเมืองนครราชสีมา ในช่วงที่ไปพักอาศัยอยู่กับแม่ของตัวเอง ซึ่งเป็นภรรยาน้อยของ นายชาญ โดยผู้ต้องหาอาศัยช่วงที่แม่ของเด็กไม่อยู่บังคับข่มขืน และก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ต่อมา เจ้าหน้าที่นำเด็กส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นพบมีร่องรอยการถูกข่มขืนจริง จึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว นายชาญ ได้บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้าง ภายในซอยมิตรภาพ 12 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ พร้อมกับควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องการรับสารภาพว่า มีภรรยาอยู่แล้วคนหนึ่ง
ทั้งนี้ พ่อเลี้ยงได้อาศัยอยู่กับแม่ของเด็กที่แคมป์คนงาน โดยปกติพ่อเลี้ยงจะเป็นคนมีอารมณ์ทางเพศรุนแรง จึงอาศัยช่วงที่แม่ของเด็กไม่อยู่ลงมือข่มขืน ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงหลังแม่ของเด็กรู้เรื่อง จึงส่งเด็กไปอยู่กับน้า กระทั่งความแตก
ต่อมา เช้าวันที่ 18 พ.ย. พ.ต.ท.ประยุทธ แพรปรุ พงส. ได้เรียกตัว นางแหวว (นามสมมติ) อายุ 35 ปี แม่ของเด็ก ภรรยาน้อยของผู้ต้องหามาสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะช่วงเกิดเหตุอาศัยอยู่ด้วยกันกับเด็กตลอดเวลา จึงน่าจะทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะส่งลูกมาอยู่กับน้าสาว
สอบสวนเบื้องต้น นางแหวว ให้การว่า ลูกสาวของตนเคยเล่าให้ว่า ถูกพ่อเลี้ยงทำอนาจาร ตนจึงไปถามสามี แต่สามีก็ไม่ยอมรับ และพูดว่าเด็กขนาดนั้นใครจะกล้าทำ หลังจากถามเสร็จตนยังถูกทำร้ายร่างกาย จึงไม่กล้าถามอีก และมาทราบที่หลังว่าลูกเคยถูกพ่อเลี้ยงตีจนเนื้อแตก ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใคร ลูกจึงไม่กล้าเล่าให้ฟังอีก แต่ด้วยที่มีฐานะยากจน ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงต้องทนทำงานอยู่ด้วย และทนเป็นภรรยาน้อยของผู้ก่อเหตุต่อไป แต่ก็ยังไม่ไว้วางใจ จึงส่งลูกไปอยู่กับน้องสาว ความจริงจึงปรากฏนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมา รวมทั้งนักจิตวิทยา เพื่อมาร่วมสอบถามเด็ก เนื่องจากเกรงว่าเด็กอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ เนื่องจากทราบมาว่า เด็กเคยถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย ข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใครด้วย เบื้องต้นเห็นว่า แม่ไม่น่าจะมีความพร้อมที่จะดูแลเด็กได้เป็นอย่างดี ทางเจ้าหน้าที่จึงนำเด็กไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดนครราชสีมา สำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ก่อนที่จะทำการประเมินต่อไปว่า หลังจากที่เด็กมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นแล้ว จะให้ไปอยู่กับใครต่อไป