บีบีซีรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ. เกิดเหตุระเบิดสนั่นหวั่นไหวที่ผู้คนได้ยินไปทั่วกรุงอังการา เมืองหลวงของประเทศตุรกี ต่อมาพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 28 ราย บาดเจ็บอีก 61 ราย เบื้องต้นพบว่าเป็นการวางระเบิดในรถยนต์ จังหวะที่รถบัสบรรทุกทหารวิ่งผ่าน
จุดเกิดเหตุอยู่ในอาคารรัฐสภาและสำนักงานทหารหลายแห่ง นายเบกีร์ บอซดัก รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป็นการกระทำของการก่อการร้าย เช่นเดียวกับกองทัพที่แถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุก่อการร้าย ขณะที่ตุรกีประสบเหตุลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นับจากตุรกีเข้าร่วมศึกต่อต้านกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ในซีเรีย ประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้พันธมิตรรวมถึงสหรัฐอเมริกาใช้ฐานทัพในประเทศได้ ทั้งยังดำเนินมาตรการแข็งกร้าวต่อกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด ในนามพีเคเค ซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำเป็นกลุ่มก่อการร้าย ทำให้ตุรกีเผชิญเหตุก่อการร้ายมาอย่างไม่ขาดสาย ส่วนครั้งนี้ไม่แน่ชัดว่ากลุ่มใดเป็นผู้ลงมือ
รายงานแจ้งว่า ผู้คนต่างใช้โซเชียลมีเดีย ลงภาพเหตุการณ์ เขียนข้อความแสดงความเสียใจกับญาติผู้ตาย ประณามผู้ก่อเหตุ รวมไปถึงตำหนิรัฐบาลที่ป้องกันเหตุร้ายไม่ได้ เช่น ข้อความหนึ่งเขียนว่า “พอได้แล้ว เลิกฆ่าคนได้แล้ว อย่าทำให้ประชาชนในประเทศนี้โศกเศร้ามากไปกว่านี้อีกเลย”
ก่อนหน้านี้ ในเดือนกรกฎาคม 2558 เกิดเหตุวางระเบิดพลีชีพในเมืองซูรุก ติดชายแดนซีเรีย คร่าชีวิตเหยื่อไปเกิน 30 ราย ต่อมาในเดือนตุลาคม เกิดเหตุวางระเบิดหลายจุดในกรุงอังการา สังหารเหยื่อนับร้อยชีวิต ทั้งยังทำให้คนในสังคมแตกแยก หวาดระแวงต่อกัน ส่วนเมื่อต้นปีนี้ มีเหตุวางระเบิดใจกลางนครอิสตันบูล สังหารนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 10 ศพ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นายอาเหม็ด ดาวูโตกลู นายกรัฐมนตรียกเลิกหมายที่จะเดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมแล้ว