ตื่นเต้นลุ้นระทึกกับพิธีกรรมฤกษ์สังหารมาตลอดทั้งเรื่อง จนแฟนๆ ต่างอยากรู้ว่าสุดท้ายเรื่องราวจะลงเอยอย่างไรกันแน่ ล่าสุดเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ละคร “ฤกษ์สังหาร” ได้ฤกษ์ปิดฉากลงอย่างสวยงาม กับบทสรุปสุดท้ายของทุกๆ ตัวละคร
ทั้ง หมอดูสายขาว มหากระทิง (ฌอห์ณ จินดาโชติ), นายตำรวจน้ำดี ศรีล (ตู่-ภพธร), รันหณ์ (มิลลี่-คามิลล่า) 1 ในเหยื่อฤกษ์สังหาร รวมไปถึงตัวตั้งตัวตีในการทำพิธีฤกษ์สังหาร รวี (แจ๊บ-เพ็ญเพชร) นักการเมืองโลภมาก ที่ต้องจบชีวิตลงด้วยการโดนธรณีสูบ, ผู้การดำริห์ (ต้น-จักรกฤษณ์) จบชีวิตด้วยการร่วงลงคงคา, เจ้าสัวพิพัฒน์ (วิทย์-ภูธฤทธิ์) จบชีวิตลงด้วยการเหินนภาวายุ และสุดท้ายหมอดูอำนาจสายดำอย่าง อุทธิ (มอส-ปฏิภาณ) ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน จนทำให้ต้องจบชีวิตลงอย่างเวทนากลางกองเพลิง สังเวยการกระทำของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นการตอกย้ำเรื่องกฎแห่งกรรมว่าสุดท้ายแล้ว “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง” นอกจากการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นแล้ว เหล่านักแสดงก็ต่างจัดเต็ม รับส่งอารมณ์กันเป็นอย่างดี จนทำให้ผู้ชมต่างปรบมือให้รัวๆ โดยเฉพาะหนุ่มมอสที่ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้ทั้ง โรคจิต และน่ากลัว ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ #ฤกษ์สังหารตอนจบ ติดเทรนทวิตเตอร์เป็นอันดับ 1 อย่างรวดเร็ว
แถมตอนท้ายของเรื่อง ผกก.สันต์ ศรีแก้วหล่อ ยังได้สอดแทรกแง่คิดเรื่องความสามัคคีของคนในชาติ ด้วยการหยิบยกคำปฏิญาณตน 5 ข้อ ถ่ายทอดผ่านเยาวชนของชาติที่เปรียบเสมือนผ้าขาว ไม่ว่าผู้ใหญ่จะเทสีอะไรลงไปผลลัพธ์ก็จะออกมาเป็นสีนั้น ฉะนั้นการปลูกฝังแต่สิ่งที่ดีงาม จะเป็นแรงผลักดันให้เยาวชนทุกคนเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม และเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ทำเอาผู้ชมอิ่มอก อิ่มใจ จนแฟนๆ ต่างยกนิ้วอย่างพร้อมเพียงให้ “ฤกษ์สังหาร” เป็นละครน้ำดีแห่งปี 2019