เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถนนทุ่งมังกร ศาลนัดไต่สวนคำร้องคดีที่นางประนอม แดงสุภา อายุ 78 ปี ผู้ก่อตั้งกิจการน้ำพริกเผาแม่ประนอม ยื่นคำร้อง ขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีแพ่งที่นางประนอมและน.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา อายุ 53 ปี บุตรสาวคนที่ 2 ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางศิริพร แดงสุภา อายุ 55 ปี บุตรสาวคนโตของนางประนอม และนายสุชาติ ภาษาต่างประเทศ อายุ 62 ปี สามีของนางศิริพร เป็นจำเลยที่ 1-2 เรื่องเพิกถอนนิติกรรม ถือกรรมสิทธิ์แทน โดยขอให้เพิกถอนการโอนที่ดิน เป็นที่ตั้งโรงงานบริษัทพิบูลย์ชัย น้ำพริกเผาแม่ประนอม จำกัด เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของนางประนอมและนายศิริชัย สามี โดยให้จำเลยที่ 1-2 โอนหุ้นบริษัทดังกล่าว 38,550 หุ้น คืนให้โจทก์ที่ 1-2 และกองมรดกของนายศิริชัย พร้อมค่าเสียหายรวม 561,950,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
โดยวันนี้โจทก์และจำเลยทั้งหมดพร้อมทนายความเดินทางมาศาล เมื่อถึงเวลานัดไต่สวน ศาลเชิญผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องพิจารณาคดี เพื่อไกล่เกลี่ยคู่ความ ขณะที่นางประนอมยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชน ก่อนกล่าวเพียงสั้นๆว่า วันนี้ตั้งใจมาขอความเป็นธรรมจากศาล เรื่องเรียกทรัพย์สินของตัวเองกลับคืน และมั่นใจว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมในการไต่สวนคดีต่อไป
จากนั้นเวลา 12.00 น. นางประนอม เดินออกมาจากศาล พร้อมน.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนรอง โดยนางประนอม เปิดเผยหลังการไกล่เกลี่ยคดีว่า เมื่อศาลท่านเมตตาไกล่เกลี่ยให้อีกครั้ง แต่นางศิริพรยังยืนกรานไม่คืนทรัพย์สินให้ตามที่ขอคืน คือ 1.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน1แปลง 2. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในหมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตภาษีเจริญ34แปลง 3.หุ้นบริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ของนางประนอม หุ้นหมายเลข20001-38200 จำนวน18,200หุ้น 4.เงินปันผลของบริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอมจำกัด เดือนละ 1ล้านบาท 5.เงินสด300ล้านบาท แลกกับกรรมสิทธิ์หุ้นในบริษัทที่เป็นของนายศิริชัย จำนวน20,000หุ้น และผลกำไรจากผลประกอบการบริษัทตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน และ6.ที่ดินกองมรดก ที่อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 9แปลง โดยอ้างว่าต้องเก็บไว้เลี้ยงหลายครอบครัว แต่ไม่คิดเลี้ยงแม่ ตนจะสู้คดีจนถึงที่สุด และจะไม่ยอมให้นางศิริพรเอาชื่อแม่ประนอม และใบหน้าของตนไปขายเป็นตราสัญลักษณ์สินค้าของบริษัทต่อไปอีก ให้ไปสร้างชื่อและตราผลิตภัณฑ์ใหม่ขายเอาเอง ถึงตรงนี้เมื่อต้องพังก็ต้องพัง
นายพิสิทธ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของนางประนอม กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าเมื่อเช้าศาลไกล่เกลี่ยแต่ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากติดขัดเรื่องทรัพย์สินบางอย่าง จึงเจรจากันไม่สำเร็จ ตอนนี้ถือว่าการไกล่เกลี่ยจบไปแล้ว ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ คือฝ่ายนางประนอม โดยตนเตรียมพยานไว้2ปาก คือ นางประนอมและคนขับรถ ส่วนฝ่ายคู่กรณีทราบว่าเตรียมพยานไว้ 9 ปาก คาดว่าจะใช้เวลาถึงช่วงเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ไต่สวนแม่ประนอม พยานโจทก์เสร็จ 1 ปาก ส่วนพยานโจทก์อีกปาก คือคนขับรถ ศาลเลื่อนให้ไปไต่สวนในวันที่ 11 ส.ค. เวลา 09.00 น.