ตำรวจตามจับแก๊งโจ๋บางบัวทอง โบกแท็กซี่จี้ปล้น 3 คันรวด ใช้เท้าถีบลุงคนขับกระเด็นตกคลอง หนำซ้ำยังเลือกก่อเหตุแท็กซี่อีกคัน
(25 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายมงคล อายุ 20 ปี , นายนวพล อายุ 20 ปี และ นายพีรพล อายุ 18 ปี พร้อมของกลางเงินสด โทรศัพท์มือถือ มีดคัตเตอร์ นาฬิกาข้อมือ และกุญแจรถ ที่ใช้ก่อเหตุปล้นรถแท็กซี่ เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ พร้อมตั้งข้อหา ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.00 น. คนร้ายทั้ง 3 คนได้โบกเรียกรถแท็กซี่ ของ นายประดิษฐ์ อายุ 65 ปี ขับรถแท็กซี่สีชมพู-ขาว จากหมู่บ้านพฤกษา 3 ซอยวัดลาดปลาดุก หลังจากขึ้นรถคนร้ายไม่ได้แจ้งปลายทาง แต่บอกให้ขับไปตามทางที่คนร้ายบอก เมื่อมาถึงถนนเลียบคลองนายหลีก คนร้ายได้ใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ขู่ให้ลงจากรถ พร้อมกับถีบผู้เสียหายตกคลองและได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง
จากนั้นคนร้ายได้ขับรถแท็กซี่หลบหนีไป พร้อมเงินสดของผู้เสียหาย 1,250 บาท ต่อมาเมื่อเวลา 03.30 น. คนร้ายทั้ง 3 คนได้เรียกรถแท็กซี่สีชมพู-เขียว ของ นายโกวิทย์ อายุ 29 ปี จากถนนข้าวสารให้มาส่งที่ย่านบางบัวทอง เมื่อมาถึงหน้าถนนเลียบคลองถนน คนร้ายได้ก็ก่อเหตุไล่คนขับลงและขับรถแท็กซี่หลบหนีไป พร้อมทรัพย์สินไปอีกเล็กน้อย
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า คนร้ายทั้ง 3 ได้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 58 เวลาประมาณ 02.00 น. ทั้งหมดได้ร่วมกันปล้น รถแท็กซี่ สีชมพู-น้ำเงิน ของ นายศักดิ์ขรินทรอายุ 41 ปี เรียกจากสี่แยกคอกวัวให้มาส่งที่หมู่บ้านบัวทอง 4 เมื่อมาถึงหมู่บ้าน คนร้ายทั้ง 3 ก็รุมทำร้ายและนำเอาเงินสด 1,600 บาท โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเงินไป พร้อมทั้งใช้อาวุธมีดแทงคนขับแท็กซี่เข้าที่ท้องด้านซ้าย ท้ายทอย และใบหน้า เย็บทั้งหมด 11 เข็ม ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัว นายมงคล ได้ในพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทองได้ทำการขยายผล จนพบรถแท็กซี่ที่คนร้ายขับไปจอดอยู่ที่หน้าบ้านของ นายพีรพล จึงได้ดักจับถึงหน้าบ้าน หลังจากทำการสอบสวนคนร้ายทั้ง 3 แล้วคนร้ายให้การรับสารภาพ จึงได้ให้ผู้เสียหายชี้ตัวคนร้าย
ต่อมาเวลา 16.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งมีเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อมีกลุ่มชาวบ้านพยายามประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป