ศัลยกรรมหัวทุย เติมแต่งรูปกะโหลกศีรษะให้สวย สำหรับคนหัวแบน ซึ่งแท้จริงแล้ว ลักษณะของ หัวทุย คือส่วนของกะโหลกศีรษะบริเวณท้ายทอยนูนได้รูป ไม่แบนราบ หรือมองดูรูปศีรษะ เป็นทรงกลม ทรงรีนั่นเอง ซึ่งแต่ละคนที่ เกิดมามีไม่เหมือนกัน ในรายที่ท้ายทอยแบน หรือหัวไม่ทุย อาจเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา จากการกดทับของมดลูกเป็นเวลานาน หรือเกิดจากการใช้อุปกรณ์ช่วยทําคลอดในรายที่มีปัญหาคลอดยาก เช่น เครื่องสุญญากาศ การใช้คีม ก็อาจส่งผลต่อรูปศีรษะได้
ซึ่งเราจะสังเกตเห็นผู้ใหญ่ที่เลี้ยงเด็กแบบโบราณ ด้วยการจับให้ทารกนอนคว่ำ เพื่อตะแคงศีรษะพลิกซ้ายขวา แทนการนอนหงายศีรษะแบนราบ ท่านอนในวัยเด็กของทารกช่วยจัดรูปทรงศีรษะได้ ซึ่งการนอนมีส่วนสําคัญมาก เพราะกะโหลกศีรษะของทารกยังไม่เชื่อมต่อกัน เป็นลักษณะทางกายวิภาคที่จะมีกระหม่อมเป็นโครงสร้างนิ่มๆ อยู่บริเวณค่อนมาทางหน้าผาก ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ขวบ กระหม่อมที่นิ่มๆ นี้ จะกลายเป็นกระดูกเชื่อมกะโหลกศีรษะให้ชิดกัน บวกกับในช่วง 2 ปีแรก กะโหลกศีรษะจะอ่อน ด้วยเหตุนี้ การให้ทารกนอนตะแคงศีรษะซ้าย – ขวา จะช่วยให้ศีรษะช่วงท้ายทอยนูนทุยสวยงาม
การนอนคว่ำของเด็กทารก เป็นสิ่งที่พ่อแม่หรือผู้ดูแลควรใส่ใจคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะการพลิกตะแคงเองของทารก อาจทําให้เสียชีวิต เนื่องจากการนอนคว่ำหน้า และขาดอากาศหายใจ การนอนหงาย คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยจับศีรษะสลับด้านพลิกไปมา เป็นระยะก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่เลี่ยงการใช้ท้ายทอยนอนราบกับหมอนจนหัวไม่ทุย
โครงสร้างทางสรีระชาวตะวันตกมีรูปร่างสูง ศีรษะเล็ก ซึ่งตรงข้ามกับชาวเอเชียที่มีรูปร่างเล็ก ส่วนศีรษะจะแบน ใบหน้าใหญ่ มองดูไม่ได้สัดส่วน จึงทําให้หลายคนตัดสินใจทําศัลยกรรมหัวทุย ขณะที่มาตรฐานความสวยของรูปทรงศีรษะนั้น ไม่ได้มีค่าวัดที่แน่นอนตายตัว เพียงแต่ศีรษะช่วงท้ายทอยนูนรับกับหน้าผาก สามารถเกล้ารัดผมให้ดูมีมิติไม่เรียบแบน หรือผู้ชายที่ต้องบวชแล้วโกนผม ก็สามารถอวดรูปทรงศีรษะได้
ศัลยกรรมหัวทุย ทําได้จริงหรือ?
การทําศัลยกรรมหัวทุยที่ประเทศเกาหลี มีมานานกว่า 10 ปี แต่อาจจะไม่เป็นที่นิยม และแพร่หลายในประเทศไทย เพราะผู้ที่จะผ่าตัด ยังไม่มีความเชื่อมั่นและเป็นกังวล ทั้งที่การทําศัลยกรรมหัวทุย ก็ไม่ต่างไปจากการทําศัลยกรรมจมูก การเสริมหน้าอก ที่จําเป็นต้องได้รับการผ่าตัดจากศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
ขั้นตอนสําคัญก่อนการลงมือผ่าตัด คือการขอคําปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะเป็นคนให้คําปรึกษา พูดคุยรายละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ จากนั้นจะทําการเอ็กซเรย์เพื่อดูโครงสร้างศีรษะว่าส่วนใดไม่มีมิติ จะเพิ่มเติมในส่วนไหน และขนาดเท่าไหร่ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ทําการผ่าตัด และความเหมาะสมที่ศัลยแพทย์แนะนํา
ขั้นตอนการผ่าตัด
ศัลยแพทย์จะใช้มีดกรีดบริเวณท้ายทอย เปิดหนังศีรษะ ซึ่งขนาดของแผลผ่าตัดนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยการนําวัสดุที่ทําจากซิลิโคน ที่ได้ทําการหล่อตามขนาดที่วัดในช่วงแรก วางเสริมเหนือกระดูก หรือกะโหลกศีรษะด้านหลังใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่ส่งผลต่อรากผม คลายความกังวลเรื่องผมร่วงได้
นอกเหนือจากซิลิโคน วัสดุที่เป็นที่นิยมคือ Methyl Bond หรือกระดูกเทียม ที่นํามาใช้ในการรักษาข้อเข่าเสื่อม ข้อต่อมีปัญหา โดยคุณสมบัติของกระดูกเทียม จะช่วยให้กระดูกยึดติดกัน ศัลยแพทย์จึงนํามาใช้เสริมทั้งหน้าผากและหัวทุย ซึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมหัวทุยนั้น ไม่จําเป็นต้องโกนผมทางด้านหลังทั้งหมด เพียงแต่แหวกผมในส่วนที่ ทําการผ่าตัด หรืออาจต้องโกน เพียงเล็กน้อย เพื่ออํานวยความสะดวกในการผ่าตัด
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด
หลังการทําศัลยกรรม จะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ จึงทําการตัดไหม และในช่วง 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด เป็นช่วงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ให้แผลติดเชื้อเหมือนอย่างการทําศัลยกรรมทั่วไป จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ศีรษะจะเข้ารูปอยู่ตัว
หลังการผ่าตัดช่วงแรก ต้องนอนอย่างไร
หลังการผ่าตัด จะมีผ้ารัดศีรษะ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคน หรือกระดูกเทียมที่วางเสริมเข้าไป ดังนั้น จึงสามารถนอนในท่านอนตามปกติ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเสริมต่อว่า ผู้ที่ทําการศัลยกรรม จะมีความกังวลว่าทรงจะไม่สวย จึงเลือกนอนตะแคงมากกว่าที่จะนอนหงาย ทั้งที่ไม่มีข้อห้าม แต่หากถามว่าบริเวณที่ทําการศัลยกรรม หากนอนทับจะรู้สึกเจ็บมากน้อยเพียงใด ในช่วงแรก ฤทธิ์ของยาชา และยาที่ต้องทานป้องกันการอักเสบของแผล จะช่วย บรรเทาอาการเจ็บปวดได้บ้าง
ข้อควรระวัง
การป้องกันการกระแทก เป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะถึงแม้จะไม่ได้ทําการผ่าตัดศัลยกรรมหัวทุยก็ตาม การที่กะโหลกศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนก็เท่ากับเป็นอันตราย ส่วนการทําสีผม หรือทําผม ก็สามารถทําได้ตามปกติ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การอักเสบของแผลผ่าตัด เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเทคนิคการผ่าตัด และการรักษาความสะอาดของคนไข้ อีกทั้งการเกิดพังผืด ซึ่งเป็นเรื่องมาตรฐานของโรงพยาบาลที่จะนําวัสดุที่ผ่านการรับรองมาใช้หรือไม่
………………………………………………………………………..
การทําศัลกรรมหัวทุย มักจะเป็นการทําเฉพาะกลุ่ม ส่วนมากเป็นการศัลยกรรมเพื่อสนองตอบความต้องการทางด้านจิตใจ เพราะต้องการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือเสียหาย หากไม่ไปกระทบค่าครองชีพ และคุณภาพชีวิตหลังการผ่าตัด ดังนั้น การศึกษาข้อมูลให้ละเอียด จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสําคัญก่อนตัดสินใจ
เนื้อหาโดย Dodeden.com
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่
