ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ

หลายคนคงจะเคยสงสัยว่า ทำไมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปแล้ว แต่บางปีก็ยังหนีไม่พ้น พอถึงฤดูกาลที่ไข้หวัดแพร่ระบาดก็ยังติดหวัดอีกจนได้

14430685881443068609l

นายแพทย์เสน่ห์ เจียสกุล ประธานคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้ข้อมูลไขข้อข้องใจว่า ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าในบางปีไข้หวัดที่ระบาดเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้มีในวัคซีน ซึ่งในทางการแพทย์เรียกว่า “Vaccine Mismatch” หรือ วัคซีนไม่ตรงกับสายพันธุ์เชื้อที่ระบาด

คุณหมออธิบายลงรายละเอียดว่า ไวรัสที่ก่อให้เกิดเชื้อไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus) มีอยู่ 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ A, B และ C  สายพันธุ์ A และ B นั้นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน เรียกว่าเป็นสายพันธุ์ที่ร้ายแรง ส่วนสายพันธุ์ C นั้นเป็นเชื้อชนิดอ่อนไม่แสดงอาการและไม่ทำให้เกิดการระบาด

ไวรัสสายพันธุ์ A จำแนกออกเป็น A/H1N1 และ A/H3N2 เป็นสายพันธุ์หลักที่พบการระบาด ส่วนสายพันธุ์ B นั้นมี 2 ตระกูลที่พบการระบาดร่วมกัน ได้แก่ สายพันธุ์ Victoria และ Yamagata สรุปได้ว่ามีไวรัส 4 สายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบัน

คำตอบที่อธิบายว่าทำไมบางคนฉีดวัคซีนแล้วยังติดไข้หวัดก็คือ ในวัคซีนที่ใช้กันที่ผ่านมาเป็นวัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์ ในแต่ละปีผู้ผลิตวัคซีนจะใส่วัคซีนป้องกันไวรัสสายพันธุ์ B ตระกูลใดตระกูลหนึ่งระหว่าง Victoria กับ Yamagata ฉะนั้นในบางปีที่ไวรัสที่ระบาดไม่ใช่ตระกูลเดียวกันกับวัคซีน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใส่ไวรัสสายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata ในวัคซีน แต่เชื้อที่ระบาดเป็นตระกูลไวรัส B ตระกูล Victoria ก็จะทำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีโอกาสติดเชื้อและเป็นไข้หวัดใหญ่ได้เท่ากับคนที่ไม่ได้ฉีด เพราะวัคซีนไม่สามารถป้องกันข้ามสายพันธุ์ได้

ดังนั้นเมื่อปี 2555 องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงได้แนะนำให้เพิ่มไวรัสสายพันธุ์ B ทั้งสองตระกูลเข้าไปในวัคซีนเพื่อให้ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อมาในปี 2014 จึงมีการผลิตไวรัสที่ครอบคลุมไวรัสทั้ง 4 สายพันธุ์ได้สำเร็จและได้รับอนุญาตให้ใช้ ซึ่งวัคซีนตัวนั้นชื่อ Quadrivalent Influenza Vaccine ครอบคลุมทั้งสายพันธุ์ A/H1N1 และ A/H3N2 สายพันธุ์ B Victoria และ B Yamagata

จากสถิติพบว่าทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ปีละ 250,000-500,000 ราย และทุกปีมีคนไทยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มากถึง 50,000-70,000 ราย

ข้อมูลทางการแพทย์ในประเทศอังกฤษพบว่าการใช้วัคซีนชนิดที่ครอบคลุมไวรัสทั้ง 4 สายพันธุ์มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะสายพันธุ์ B มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 18% ส่วนในสหรัฐอเมริกาพบว่าหากใช้วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ทดแทนวัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์ จะช่วยลดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่าการใช้วัคซีน 3 สายพันธุ์ถึงปีละ 1.3 ล้านคน

สำหรับในประเทศไทย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้นำเข้าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์เป็นแห่งแรก และได้ให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา คาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้โรงพยาบาลอื่น ๆ จะนำวัคซีนตัวใหม่นี้เข้ามาให้บริการอย่างทั่วถึง

เรื่องน่าสนใจ