สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าโอลิมเปีย-ไอน์เคาฟ์เซ็นทรุม ในย่านมูซาค เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตำรวจกำลังพยายามไล่ล่าตัวผู้ที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุยิงดังกล่าวซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 รายและได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 20 คน โดย 3 คนอาการสาหัส
รายงานข่าวระบุว่ามีมือปืน 3 รายที่กำลังหลบหนี ขณะที่ตำรวจได้ขอร้องให้ประชาชนอยู่แต่ภายในที่พัก หลีกเลี่ยงพื้นที่สาธารณะและมีการระงับการให้บริการของระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจยังใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจตราเหนือพื้นที่ของเมืองด้วย
ขณะที่เยอรมนีได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในมิวนิกและส่งกองกำลังจากหน่วยพิเศษเข้ามาร่วมปฏิบัติการในพื้นที่ ด้านออสเตรียได้สั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจตราบริเวณพรมแดนที่ติดกับเยอรมนีแล้ว
นอกจากนี้ตำรวจกำลังพยายามตรวจสอบว่าหนึ่งในร่างผู้เสียชีวิตที่พบอยู่ห่างจากห้างสรรพสินค้าดังกล่าวออกไปราว 1 กิโลเมตร คือผู้ลงมือก่อเหตุใช่หรือไม่ ทั้งยังมีรายงานด้วยว่าตำรวจได้ใช้หุ่นยนต์เข้าตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าวเนื่องจากไม่แน่ใจว่ามีระเบิดอยู่ด้วยหรือไม่
ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทยในเยอรมนีได้ออกประกาศเตือนคนไทยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เกิดเหตุการณ์ยิงตามสถานที่ต่างๆ ในนครมิวนิก จนมีผู้เสียชีวิต และได้งดการให้บริการรถไฟใต้ดินในนครมิวนิกทั้งหมด ตลอดจนได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในนครมิวนิกนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ขอให้ชาวไทยในนครมิวนิกและเมืองใกล้เคียง โปรดงดการเดินทางไปในที่ชุมนุมชนโดยไม่จำเป็น และพึงใช้ความระมัดระวังในกรณีที่มีความจำเป็นต้องออกนอกเคหสถาน หากมีภารกิจจำเป็น ก็ขอให้รีบดำเนินการและออกจากที่ชุมนุมชนโดยเร็วด้วย พร้อมทั้งติดตามการรายงานข่าวอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะมีการประกาศว่าสถานการณ์ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่เบอร์ + 49 152 0351 9139 และ +49 162 520 7553 และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ที่เบอร์ +49 175 124 1026 และเบอร์ +49 171 744 6443 ตลอด 24 ชั่วโมง
ล่าสุด ตำรวจออกมาสรุปว่าผู้ก่อเหตุมีเพียงรายเดียวเป็นชาวเยอรมนีเชื้อสายอิหร่านซึ่งถือ 2 สัญชาติ ซึ่งได้ฆ่าตัวตายแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้ลงมือก่อเหตุ