สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุสลดหดหู่ขึ้นที่ประเทศจีนเมื่อชายคนหนึ่งล้มลงบนถนน มีเลือดออกบริเวณใบหน้า แต่ไม่มีใครเข้าไปให้การช่วยเหลือเลยแม้แต่คนเดียว สาเหตุเพราะกลัวโดนแบล็กเมล์เรียกค่าเสียหาย ขณะที่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปรากฏการณ์ระแวงอย่างหนักของผู้คนในสังคม
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชายสูงอายุคนหนึ่งที่จู่ๆ ก็ทรุดตัวลงขณะกำลังข้ามถนนในเจิ้งโจว แต่หลังจากทราบว่าไม่มีหลักฐานในการถ่ายภาพ พวกเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นและได้กรูเข้ามาช่วยชายสูงอายุคนนี้
โดยผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งกล่าวว่า “ชายคนนั้นกำลังวิ่งข้ามถนนและล้มลงอย่างกะทันหัน นอนเหยียดตัวอยู่บนพื้นถนนและมีเลือดไหลออกจากบริเวณใบหน้าของเขา” จากนั้นฝูงชนจำนวนมากต่างค่อยๆ กรูกันเข้าไปถ่ายรูปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทว่าชายสูงอายุที่ล้มลงไม่พอใจอย่างมากที่มีคนถ่ายรูปเขา ซึ่งเขาจะฟ้องร้องต่อทุกคนที่ถ่ายรูปของเขา
จากนั้นไม่นานได้มีรถพยาบาลมารับตัวไปส่งที่โรงพยาบาลตามที่พลเมืองดีได้แจ้งไว้ หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า “เขามีเลือดออกที่หน้า แต่ที่แปลกก็คือไม่มีใครกล้าช่วยเหลือเขาเลย เพราะพวกเขาน่าจะกลัวการแบล็กเมล์ว่าเป็นคนทำร้ายชายคนนี้”
จากกรณีดังกล่าวกลายเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนบ่อยครั้งอย่างเช่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ผู้สูงอายุที่มณฑลเจ้อเจียงล้มลงกับพื้นและได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากผู้คนบริเวณนั้น ก่อนจะหายตัวไป และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้สูงอายุชาวจีนรายหนึ่งปั่นจักรยานล้ม แต่เขากลับต่อว่าพลเมืองดีที่จะเข้ามาดูอาการของเขา ซึ่งชาวเน็ตหลายคนมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เลวร้ายในสังคมจีน และพวกเขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ถึงไม่กล้าเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
ความเห็นหนึ่งจากชาวเน็ตระบุว่า “การที่เราเห็นเหตุการณ์ต่อหน้ามันเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณเห็นคนแปลกหน้านอนแน่นิ่งอยู่บนถนน คุณควรรีบบอกเพื่อนคุณให้บันทึกเหตุการณ์นั้นไว้เผื่อกรณีคุณถูกกล่าวหาว่าเป็นคนร้าย ซึ่งมันดีกว่าให้พวกนักข่าวและชาวเน็ตเอาไปพาดหัวข่าวเสียๆ หายๆ”
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เพื่อลดปัญหาดังกล่าว รัฐบาลเซี่ยงไฮ้จึงได้ออกกฎคุ้มครองต่อผู้ที่มีทักษะทางแพทย์สามารถทำการปฐมพยาบาลหรือให้ความช่วยเหลือได้นอกจากนี้เมืองหางโจวและเมืองเซินเจิ้นได้ออกกฎหมายคล้ายคลึงกันนี้ออกมาเช่นกันรวมถึงให้การคุ้มครองในกรณีพลเมืองดีถูกกรรโชกทรัพย์หลังการให้การช่วยเหลือคนแปลกหน้าในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย
