ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเว็บไซต์พันทิบดอทคอมได้มีสมาชิกตั้งกระทู้หัวข้อว่า “ประสบการณ์ตรง ลดน้ำหนักจาก100 กิโล ->>53 กิโล” โดยเป็นการรีวิวการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก โดยทางเว็บไซต์โดดเด่น ได้มาเรียบเรียงเนื้อหาทั้งหมด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านที่ต้องการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพและความงาม
เนื้อหาในกระทู้ระบุว่า “ตั้งท่า ตั้งท่า บอกเล่าประสบการณ์นี้มานานเป็นปี แต่ไม่มีเวลาสักที….เจ้าของกระทู้ อายุ 37 ปี เรียกแทนตัวเองว่า เราก็แล้วกันนะ แต่ใครจะเรียกป้า เรียกพี่ก็ตามแต่สะดวกนะ….^^
ก่อนอื่นต้องออกตัวต่อว่า ไม่ได้มีวิธีการไรที่แตกต่างจากคนอื่นๆที่อยากลดน้ำหนักเค้าทำกันหรอกค่ะ แค่เรามีใจ หนักแน่น ฝ่าฟัน ตั้งใจที่จะผ่านอุปสรรคหลายๆอย่างไปให้ได้ คนที่ลดความอ้วนหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายคนคงจะเข้าใจดีว่า อุปสรรคที่จะทำให้ความตั้งใจเราจบลง คือ ความขี้เกียจ ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการใช้ชีวอตบางอย่างเท่านั้นเอง
สำหรับเราใช้วิธีออกกำลังกายค่ะ เนื่องจากน้ำหนักเยอะ วิ่งก็ไม่ได้ เต้นก็ปวดข้อ เลยไปหาซื้อเครื่องเดินในอากาศ ในแคตตาล็อกเซเว่นนั่นแหละค่ะ 2990. แคะกระปุกกันเลยทีเดียว และก็เริ่มจากตรงนั้น วันละครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
บางวันก็ทำสามรอบรอและ ครึ่งชั่วโมง เข็นไปทำหน้าที่วีบ้างไรงี้ค่ะจะได้ทำได้แบบเพลินๆ เล่นเวทบ้างเพราะแขนใหญ่มาก เล่นแบบไม่ได้หักโหมนะคะ แต่ทำทุกวันในช่วงแรก อาหารไม่อดเลยสักมื้อค่ะ กินครบ เพราะเคยอดแล้วหน้ามืด. แต่ปรับเปลี่ยนพติกรรมในการกินใหม่ ของทอดงดก่อน ของหวานเอาแค่พอรู้รสจะได้ไม่เครียด
ในตู้เย็นไม่ซื้อน้ำอัดลมมาแช่ ขนมไม่มี มีแต่ผลไม้. มื้อเย็นกินเบาๆหน่อยเท่านั้นเองค่ะ เพราะเคยใช้วิธีกดดันตัวเองดีไม่ดี กินยาลดความอ้วนเกือบตายก็เคยมาแล้ว เค้าให้กินสองเม็ด โมโหกินสี่เลย ถึงขนาดบ้านหมุนหายใจไม่ออก คลานเข้าห้องน้ำเอาน้ำราดหัว โทรหาพ่อหาแม่บอกให้มารับไปโรงพยาบาล แล้ววางสาย คลานเข้าห้องพระ ไปไหว้พระสวดมนต์ แล้วบอกว่าลูกยังไม่อยากตายเจ้าค่า….โชคดีเวรกรรมยังมีเยอะ เลยยังมีชีวิตรอดไม่หัวใจวายตายไปซะตั้งแต่วันนั้น….
หนึ่งในแรงบันดาลใจ และเป็นไอดอลของเรา ที่ทำให้มีแรงฮึดก็คือ พี่ต่ายเพ็ญพักต์ค่ะ เราเป็นแฟนคลับพี่เค้า คิดดูสิคะพี่เค้าอายุมากกว่าแม่เราอีก แต่โอโห หุ่นนี้ขอบอก สาวๆหลายคนชิดซ้าย. จะทำไงเมื่อเราอยากจะได้สักครึ่งของพี่ต่ายก็ยังดี…
อีกแรงฮึด..ก็คือ ต้องไปงานแต่งเพื่อนและงานเลี้ยงรุ่น ซึ่งเราเลี่ยงมาตลอดเนื่องจาก หาเสื้อผ้ายาก จะตัดก็แพงกว่าคนไซส์ปกติ เพราะ….ใช้ผ้าเยอะ^^
อีกแรงฮึดนึงก็คือ อยากมีสุขภาพแข็งแรง อยู่ดูแลพ่อดูแลแม่ไปนานๆ เพราะตั้งแต่อ้วนบอกตรงๆเหมือนพ่อแม่ต้องคอยดูแลเราตลอด…เพราะป่วยบ่อยค่ะ..
และแรงฮึดสุดท้าย อยากให้คนที่เรารัก รู้สึก ไม่อายใคร แม้ว่าเค้าจะไม่เคยบ่นว่าอะไรเราเลยก็ตามที มีแต่กำลังใจให้และไม่อยากให้หักโหม
ตอนนั้นบอกตรงๆว่าไม่กล้าถ่ายรูปค่ะ เพราะสภาพมันไม่รู้จะทำตัวแบบไหน (แต่พอจะถ่ายเก็บไว้ทีเล่นเปิดพุงกันเลย5555) มันเป็นภาพที่ตัดสินใจถ่ายเก็บไว้ก่อนจะตั้งใจลดน้ำหนักอ่ะค่ะ ตั้งใจจะเก็บไว้ดู^^
หกเดือนที่เราตั้งใจ มีวินัย และมั่นคงกับความตั้งใจของตัวเอง…ความพยามอยู่ที่ไหน สุขภาพดีก็อยู่ที่นั่นค่ะเนื่องจากเราเขินเลยขอหันหลังแป็บนึง แหะๆๆ
เมื่อน้ำหนักเริ่มลง เราก็เลยไปแก้จมูกค่ะ เราเสริมจมูกตั้งแต่เรียนจบ ทำมาก็เป็นสิบปีแล้ว พอน้ำหนักลง เลยนั่งคิดกับตัวเองว่า เออนะควรทำเพราะตอนนี้รูปหน้าเปลี่ยน ก็ทำกับหมอแถวบ้านนี่แหละค่ะไม่ได้ทำตรงไหนไกลหรอกเพราะไปกลับสะดวกเราคนต่างจังหวัด ตกลงทำจมูก
แต่เนื่องจากเราเป็นคนตาชั้นเดียว หนังตาเยอะมาก และหางตาตก แม้เราจะทำหน้าเฉยๆ ทุกคนจะลงความเห็นกันว่า นี่แกโมโหใครมาป่ะ คือ ตาดุ เลยคิดว่าเอาวะ ทำเลยพร้อมกัน ไหนๆก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายหนาวแล้ว
และก็เป็นการศัลยกรรมแค่สองอย่างที่ทำ เพราะมากกว่านี้จะเกินงบ 555 ค่ายใช้จ่ายส่วนตัวสูง ไหนจะลูกสอง หลานหนึ่ง หมาอีกยี่สิบตัว จะอดข้าวเอาซะเปล่าๆ เอาแบบสวยแล้วมีข้าวกินแค่นั้นจะดีกว่า และคิดว่าจะเลือกทำในส่วนที่เรามีปัญหา ประเภทฉีดไรเข้าไปจะไม่ทำ ไม่ใช่ไม่อยากนะคะแฮ่ๆ แต่แพ้ยาต่างๆง่าย และอีกอย่างเคยมีเพื่อนสนิทที่ไปฉีดผิวขาวมาแล้วเสียชีวิต เลยเตือนตัวเองว่า แค่นี้พอ
ตอนนี้น้ำหนักก็มีขึ้นบ้างค่ะ แต่ไม่มากมายไร ตอนเย็นบางทีมีปาร์ตี้ ก็ซัดปกตินะคะ คืออย่างบางทีทานกับแฟนจะมานั่งอด ทานแต่สลัดมันก็ไม่สนุก ทุกอย่างต้องมีผ่อนหนักผ่อนเบา เพื่อความสุขในชีวิตด้วยเพียงแต่ ถ้าซัดมาหนัก เช้ามาก็ออกกำลังกาย ต้องพึงสังวรณ์ว่า กว่าจะมีวันที่สุขภาพดี เดินเหินไม่ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเข่าแบบนี้ ไม่ใช่วันสองวันตื่นมาแล้วทุกอย่างเปลี่ยน มันต้องผ่านเหตุการณ์บีบคั้น วัดใจกันมาเยอะ
เรื่องอาหารเสริมลดน้ำหนักทานบ่างค่ะแต่ไม่ได้ติดตามผล ก็จะเป็นพวก แอลคา แบบปกติค่ะ ไม่ได้กินประจำ ส่วนตัวเราคิดว่ามันเหมือนการเดินเข้าป่าช้า แล้วเราหาของขลังพกติดตัวไปด้วยตลอดการเดินทางผ่านป่าช้า ซึ่งจริงๆแล้วการที่เราไม่เจอผีก็ไม่รู้เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเพราะจิตใจเราเข้มแข็ง. เราคิดแบบนี้นะ
เราเป็นคนมีพุงมีเซลูไลท์นะคะ แต่มันน้อยลงไปกว่าเดิม อยากจะมีซิกแพ็คนะแอบอิจฉาคนที่มี แต่ตอนนี้ต้องหาแรงบันดาลใจก่อน 5555
เนื่องจากเราชอบพี่ต่ายเพ็ญพักต์มากๆ แต่ด้วยหุ่น และต้นทุนทุกอย่าง พี่ต่ายเค้าดีกว่าเรา. เราเลยเลือกที่จะเป็นในแบบที่เป็นตัวเราในบางอย่าง. เช่นเราลดน้ำหนักแต่ไม่ต้องการผอมมาก โดยส่วนตัวเราคิดว่า ผู้หญิงที่มีน้ำมีนวล มีเอว มีสะโพกที่สมส่วนมันดูน่ามองดี. อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ
สุดท้ายของกระทู้ ผู้หญิง 37 แค่อยากจะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากมีสุขภาพแข็งแรงและอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองนะคะ เราอาจจะไม่เก่งเรีองวิธีการ แต่อาศัยมีใจ สม่ำเสมอ การลดความอ้วนคือการเอาชนะใจตัวเองที่สนุกค่ะ เพราะผลลัพธ์มันทำให้เราอยากจะส่องกระจกมากกว่าแต่ก่อน เรารู้สึกสนุกในการแต่งตัว และ ที่สำคัญสุขภาพกายและใจแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ
สู้ๆนะคะ เชื่อว่าทุกคนที่มีปัญหาเหมือนเราทำได้ มันอยู่ที่ว่า เราพร้อมเอาจริงเอาจังกับมันหรือเปล่า
ที่มา www.pantip.com