เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com
เป็นเรื่องราวและกระทู้ที่ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียลเป็นอย่างมากในตอนนี้ เมื่อมีผู้ใช้เว็บไซต์พันทิปชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 2662337 ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ไปผ่าเอาฟันคุดที่คลินิกหนึ่ง เนื่องจากเธอนั้นมีความต้องการจะจัดฟัน เลยทำให้ต้องผ่าตัดฟันคุดทั้งหมด 4 ซี่ งทั้งหมดฟันยังไม่โผล่ ซึ่งเธอก็ตัดสินใจไปผ่าฟันคุดที่คลินิกแห่งหนึ่งใกล้ที่พัก โดยเลือกผ่าฝั่งขวาทั้งบนและล่างก่อน
ก่อนที่เธอจะผ่าตัดนั้น คุณหมอที่เป็นผู้หญิงก็พูดอธิบายให้เธอฟังอย่างดีมาก บอกว่าเคสผ่าตัดของเธอนั้นเป็นเคสยาก เนื่องจากฟันยังไม่โผล่และมีตะแคงอยู่ และบอกว่าหลังผ่าตัดอาจจะทำให้มีรอยแผลมุมปากฉีกได้เพราะเกิดจากการดึงรั้งเครื่องมือนั่นเอง จากนั้นคุณหมอก็ฉีดยาชาทำให้เธอนั้นชาไปครึ่งหน้า ตอนกรีดเหงือกผ่าฟันซี่บนนั้นเธอไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่สักพักไม่นานก็รู้สึกแสบอย่างแรงที่มุมปากข้างที่ผ่า แต่ด้วยฤทธิ์ยาชาทำให้เธอไม่รู้สึกเจ็บอะไรมาก คุณหมอถามเธอว่ารู้สึกอะไรไหม เธอก็ตอบแต่ว่าแสบๆ ที่มุมปาก อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ทำนั้น เธอได้ยินเสียงหมอผู้ช่วยตำหนิขึ้นมาว่าทำไมไม่ช่วยกันดู ทำเครื่องกรอฟันโดนและเป็นแผลที่มุมปาก แต่หลังจากผ่าเสร็จคุณหมอก็แนะนำว่าให้ดูแลแผลสักประมาณ 1 สัปดาห์ เดี๋ยวแผลก็ดีขึ้น
ในตอนแรกเธอเห็นแผลที่มุมปากนั้นเธอก็ตกใจ แต่แผลยังใหม่ ยังไม่มีอาการพุพอง เลยดูไม่น่ากลัวสักเท่าไร
สภาพแผลหลังจากที่ผ่าตัดเสร็จครึ่งชั่วโมง
จากนั้นตอนผ่าซี่ล่างก็เหมือนว่าหมอจะระวังมากขึ้น จนผ่าเสร็จหมอก็จ่ายยาแก้ร้อนใน 2 ซองกับหน้ากากเพิ่มให้ 5 อันจากรายการยาปกติ พร้อมแสดงความรับผิดชอบโดยให้ทั้ง 2 รายการเก็บเงินที่หมอแทน
แต่พอเธอกลับมาถึงบ้าน เธอก็ประคบเย็นที่บาดแผลตามที่คุณหมอแนะนำ แต่หลังจากเพียงประมาณ 2-3 ชั่วโมง แผลของเธอก็เริ่มอักเสบ ปากบวมขึ้น และเป็นตุ่มน้ำใสพองขึ้นที่ริมฝีปาก อีกทั้งพนังในปากก็พองขึ้นเป็นฝ้าขาวๆ ตามรอยทาบเครื่องมือ
ตอนนั้นเธอยังมีความปลอบใจตัวเอง ว่าเดี๋ยวแผลนั้นก็คงดีขึ้น แต่รุ่งเช้าพบว่าปากของเธอนั้นบวมเจ่อขึ้นเป็นอย่างมาก และปากก็ปิดกันได้ไม่สนิท เมื่อให้พี่ที่ทำงานของเธอดูบาดแผลหลายคนก็ตกใจกันยกใหญ๋ พี่ที่ทำงานจึงได้พาเธอไปคลินิกและโทรศัพท์ต่อสายกับคุณหมอที่ผ่าให้ โดยสรุปว่าคุณหมอนั้นจะตกลงคืนค่าผ่าตัดให้ 6,000 บาท และจะไม่ขอเธอในเคสนี้ต่อแล้ว ซึ่งตอนนั้นเธอก็ไม่รู้จะเรียกร้องอะไร ไม่ได้อยากได้เงิน แค่อยากให้แผลกลับมาหายเหมือนเดิมเท่านั้น
ภาพถ่ายในวันที่ 28 มิถุนายน แผลเริ่มทุเลาลงบ้างแล้ว อาการบวมก็เริ่มลดลง
หลังจากนั้นเธอก็พยายามดูแลตัวเองเป็นอย่างดี และสังเกตแผลตัวเองอยู่ตลอดว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่หมอว่าจริงไหม เธอพยายามปิดแผลซีลไว้เวลาอาบน้ำ แม้จะโดนน้ำตอนแปรงฟัน และตอนดื่มน้ำบ้างก็ตาม แต่เธอก็ทายาและดูแลแผลเป็นอย่างดี ซึ่งแผลตังกล่าวเรียกได้ว่าทำเอาเธอลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เพราะเธอต้องคอยสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ออกข้างนอก ไม่อยากออกไปรับประทานข้าวนอกบ้าน เพราะต้องคอยพะวงกับแผล และเสียความมั่นใจอยู่ตลอด
และนี่คือรูปพัฒนาการของแผล จากรูปแรกจะเห็นว่าปากเหมือนจะแหว่ง เนื้อหายไปแล้วเป็นรอยบุ๋ม หลังอาบน้ำแผลจะเป็นสีซีด ๆ 1 สัปดาห์ผ่านไปแผลยังไม่ดีขึ้น
2-3 สัปดาห์ผ่านไป แผลเริ่มดีขึ้น ขอบแผลแคบเข้ามาและมีรอยแผลเป็นแทน แต่เนื้อยังขึ้นไม่เต็มเหมือนคนปากแหว่ง
และนี่คือสภาพปัจจุบัน
ซึ่งหลังจากเธอได้แชร์ประสบการณ์ไปแล้วนั้น ได้มีชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้เธอนั้นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทันตแพทย์ และทางคลินิก บางคนยังตั้งข้อสังเกตว่าแผลในลักษณะนี้น่าจะเกิดจากความไม่ระมัดระวังของหมอ และเท่าที่ดูเหมือนทางหมอแทบจะไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย