วันที่ 19 ส.ค.58 นายอมรกิจ พลสามารถ อายุ 44 ปี ชาว อ.พระนครศรียุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของโรงไอศกรีมแบบรถขี่ขายตามหมู่บ้าน เล่าว่าตนได้รับการติดต่อจาก น.ส.แพรวไพร ไฝงาม อายุ 23 ปี เป็นพนักงานอิมแพคเมืองทองธานี ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ประกาศตามหาพ่อ ที่พลักพรากมา 15 ปี ชื่อนายทองไส ไฝงาม อายุ 45 ปี ตรงกับชื่อญาติของคนงานคนหนึ่ง มีอาชีพขี่รถขายไอศกรีม
โดย น.ส.แพรวไพร บอกว่า พลัดพรากจากพ่อมานาน 15 ปี จึงนัดหมายที่จะมาพบกันที่บ้านวันนี้ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านของนายทองไส ผู้เป็นพ่อที่กำลังรอเจอลูกสาวเช่นกัน จนกระทั่ง น.ส.แพรวไพร เดินทางมาถึงทั้งพ่อลูกต่างเข้าสวมกอดร้องไห้ด้วยความปราบปลื้ม
น.ส.แพรวไพร เปิดเผยว่า ตอนอายุ 7 ปี แม่แยกทางกับพ่อทำให้ไม่ได้พบพ่ออีกเลยจนโตและมาทำงานอยู่ที่อิมแพคเมืองทอง มีโอกาสได้ใช้อินเตอร์เน็ตเล่นเฟซบุ๊ก และค้นหาเจอเฟซบุ๊กส่วนตัวของพ่อ จึงเข้าไปทิ้งข้อความเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ ซึ่งคาดว่าพ่อน่าจะเปิดไว้เล่นๆ ไม่ได้สนใจโพสต์หรือเข้ามาดูข้อความแต่อย่างใด เมื่อไม่สำเร็จก็เลยไปใช้วิธีพูดคุยกับเพื่อนของพ่อจนไปเจอนายอมรกิจ ซึ่งโชคดีมากนายอมรกิจรับประสานเบอร์โทรศัพท์ให้ตนได้โทรฯติดต่อ และพบเจอกับพ่อในที่สุด ต้องขอบคุณนายอมรกิจ และเฟซบุ๊กที่เป็นสื่อให้ลูกพี่พลัดพรากจากพ่อนานถึง 15 ปี ได้มาเจอกันอีกครั้ง
ด้านนายทองไส เปิดเผยว่า เคยอยู่กินกับแฟนชาว จ.บุรีรัมย์ แม่ของ น.ส.แพรวไพร ที่กรุงเทพฯ กระทั่งลูกสาวอายุได้ 7 ปี ได้ทะเลาะกันทำให้เลิกลา โดยฝ่ายหญิงนำลูกสาวไปด้วย ทำให้ไม่ได้พบกันอีกเลย ภายหลังอดีตภรรยาเสียชีวิตลง ฝ่ายบุตรสาวจึงออกตามหา ขณะที่ตนก็ไม่รู้ว่าลูกไปอยู่ไหน ได้แต่หวังว่าสักวันจะได้พบกัน
กระทั่ง จู่ ๆ นายอมรกิจมาบอกว่ามีผู้หญิงอ้างตัวเป็นลูกสาวตนติดต่อมาทางเฟซบุ๊ก ตอนแรกตกใจมากเพราะตนเปิดเฟซบุ๊กไว้เฉย ๆ ไม่ได้เล่นอะไรเลย จนผู้หญิงคนดังกล่าวต้องเข้ามาหาเพื่อนในกลุ่มเฟซบุ๊กของตนก็คือนายอมรกิจ และเป็นคนกลาง ทำให้ได้เจอลูกสาวสมดังที่ตั้งใจ อย่างไรก็ตามตนใช้ชีวิตมีภรรยาใหม่แล้ว ซึ่งทางภรรยาใหม่ และญาติพี่น้องก็ยินดีที่ไม่ขัดข้องที่จะให้ตนได้พบกับลูกสาวอีกครั้ง
