สู้ COVID-19 ง่ายๆ กับ5 เคล็ดลับ สร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้ตัวเอง เพราะอะไรก็ไม่สําคัญเท่าความใส่ใจต่อสุขภาพที่คุณมีให้กับตัวของคุณเอง เพียงแค่ความใส่ใจเพียงอย่างเดียว จะทําให้คุณหันมาหาวิธีการสร้างเสริมสุขภาพร่างกายได้ โดยไม่ต้องมีใครมาบังคับ เริ่มต้นที่ความตระหนักถึงสุขภาพร่างกายของตนเองนี่แหละ
การกระตุ้นต่อมธัยมัส (Thymus) ต่อมไร้ท่อที่อยู่หลังกระดูกเต้านมขึ้นไปถึงบริเวณต่อมธัยรอยด์ มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การกระตุ้นต่อมต่อมธัยมัส ทําได้โดยการกํามือข้างใดข้างหนึ่ง วางห่างจากตําแหน่งของต่อมธัยมัส ที่อยู่ใต้คอบริเวณกลางหน้าอกประมาณ 5 ซม. เคาะเข้าไปด้วยแรงปานกลาง 5-10 ครั้ง ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ควรใช้วิธีนี้โดยเด็ดขาด เพราะจะทําให้หัวใจเต้นผิดปกติ อาจเกิดอันตรายได้
สร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้เกิดขึ้นกับตนเองอยู่ตลอดเวลา การได้ทําอะไรที่รู้สึกสบายใจและมีความสุข เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องการอยู่แล้วจริงไหม? จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทํา การสร้างความสดชื่นให้กับตนเองอยู่เสมอ มีผลต่อระบบประสาทและระบบฮอร์โมน ทําให้ภูมิต้านทานดีขึ้นตามไปด้วย ที่สําคัญ ภูมิคุ้มกันจะทํางานได้ดีในช่วงที่เรามีความสุข นอกจากนี้ การหัวเราะยังช่วยให้โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานที่เรียกว่า อิมมูนโนโกลบลินในเลือดเพิ่มมากขึ้นด้วย
การออกกําลังกายแบบต่อเนื่อง การได้เคลื่อนไหวร่างกาย ช่วยให้เซลล์ต้านมะเร็งทํางานเพิ่มขึ้น อย่างน้อยๆ ที่สุดครั้งละ 30 นาที ให้เหมาะสมกับอายุ ช่วยลดความเครียด เมื่อความเครียดลดลง ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทํางานดีเพิ่มขึ้นด้วย
การร้องเพลง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันผ่อนคลายความรู้สึกให้ดีขึ้น เพิ่มอิมมูนโนโกลบลินชนิดเอในเลือด เหมือนการสร้างเสียงหัวเราะที่กล่าวไปแล้วนั่นเอง
การกินพืชผักและผลไม้ ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงได้ และพืชผักผลไม้ที่กินได้ มีสารต่างๆ ประมาณ 10,000 ชนิด ซึ่งมีประมาณ 20-30 ชนิด ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น คลอโรฟิลล์จากพืชผักสีเขียว แคโรทีนอยด์จากผักผลไม้สีเหลือง ส้ม และสารแอนโทไซยานินจากพืชผักสีน้ำเงิน สีม่วง เช่น องุ่น และกะหล่ำม่วง เป็นต้น ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การกินผักและผลไม้ให้ผลดีต่อสุขภาพมากที่สุด โดยเฉพาะการกินผักได้ประโยชน์มากกว่าผลไม้ และผักโดย มาก ควรทานสดหลังจากล้างสะอาดแล้ว แต่บางชนิดควรผ่านการหุงต้มก่อน จึงจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดี เช่น มะเขือเทศ และแครอท เป็นต้น
เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่