ที่มา: เสริมสิน สมะลาภา

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เรื่องราวทุกเรื่องเกี่ยวกับพระองค์ได้รับความสนใจทั้งสิ้น รวมไปถึงพระตำหนักที่ประทับเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ด้วย

 

วิลล่าวัฒนา ตั้งอยู่เลขที่ 51 เป็นบ้านใหม่ 3 ชั้น จำนวน 13 ห้องนอน อยู่บนเนินลาดในเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ มีบริเวณสวนผลไม้ หันหน้าไปทางทะเลสาบเจนีวา (ทะเลสาบเลม็อง) และมองเห็นเทือกเขาแอลป์ ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงตัดสินพระทัยย้ายออกจากแฟลตขนาด 3 ห้องนอน เลขที่ 16 ถนนทิสโซ่ต์ เมืองโลซานน์เพื่อเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ภายหลังการสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และรัฐบาลได้อัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเช่าบ้านหลังนี้จากเจ้าของในราคาเดือนละ 8,000 ฟรังก์สวิส โดยเจ้าของยินดีขายบ้านให้ในราคา 96,000 ฟรังก์สวิส แต่ไม่ได้ทรงซื้อไว้ เพราะไม่มีเงินก้อน ทรงย้ายเข้ามาอยู่ที่วิลล่าวัฒนาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2478 และทรงใช้ชีวิตที่นี่เป็นเวลาสิบกว่าปี ทรงตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า “วิลล่าวัฒนา” ตามพระนาม “สว่างวัฒนา” ของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และพระนามของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา

ในปี พ.ศ. 2493 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จออกไปประทับที่แฟลตเลขที่ 19 ถนนอาวองต์ โพสต์ ภายหลังพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชกับสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ โดยมีพระประสงค์ให้ทั้ง 2 พระองค์มีความเป็นส่วนพระองค์

เมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงสร้างพระตำหนัก 6 ชั้นหลังใหม่ เลขที่ 15 ซอยบ้านดอน ถนนสุขุมวิท 47 ในบริเวณติดต่อกับพระตำหนักเลอดิส ซอยแสงมุกดา ถนนสุขุมวิท 43 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2540 เพื่อใช้เป็นที่ทรงงานและเป็นที่รับแขก ทรงตั้งชื่อพระตำหนักหลังใหม่ว่า พระตำหนักวิลล่าวัฒนา ตามชื่อพระตำหนักที่ทรงใช้ชีวิตมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์

ปัจจุบันเจ้าของบ้านได้รื้อบ้านหลังนี้ลง เนื่องจากสภาพทรุดโทรม และสร้างใหม่เป็นอาคารอะพาร์ตเมนต์ 3 ชั้นสำหรับให้เช่าพักอาศัย ตั้งชื่อว่า “อาคารเลขที่ 51

เรื่องน่าสนใจ