เรียกได้ว่าทำเอาอึ้งกันไปเลยทีเดียวเมื่อหนุ่มมะกัน วัย 33 ปี ออกมายอมรับว่าตนเองใช้เงินกว่า 5 ล้านบาทในเวลา 5 ปี หมดไปกับการพยายามศัลยกรรมใบหน้าให้เหมือน”จัสติน บีเบอร์”นักร้องหนุ่มขวัญใจวัยรุ่น
โทบี เชลดอน นักแต่งเพลงชาวลอสแองเจลิสได้ออกมายอมรับว่าเขาใช้ใบ หน้าแสนอ่อนเยาว์ของจัสติน บีเบอร์มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำศัลยกรรมเพื่อให้ตนเองดูเด็ ก โดยยืนยันว่าฉีดฟิลเลอร์เข้าที่ใบหน้าและคางพร้อมศัล ยกรรมชั้นตาใหม่ด้วย เชลดอน ได้หมกมุ่นอยู่กับรูปลักษณ์ของตนเองนับตั้งแต่ที่เขา เริ่มเข้ารับการรักษา เรื่องผมบางป้องกันผมร่วงเมื่อมีอายุ 23 ปี
แต่มาเริ่มสนใจเรื่องศัลยกรรมจริงจังเมื่อได้เห็นจัสติน บีเบอร์ โด่งดังแบบสุดๆเมื่อปี 2008 “ตอนที่จัสตินดังระเบิดขึ้นมา ทุกที่มีหน้าเขาเต็มไปหมด ไปที่ไหนๆก็เจอแต่หน้าจัสติน สิ่งที่ผมเอาแต่คิดตอนที่ได้เห็นภาพของเขาคือ ‘ผมอยากหน้าเหมือนเขา’ “ เชลดอน หนุ่มผู้คลั่งศัลยกรรมเผย โดยเชลดอนได้ ระบุว่าเขาใช้เงินไป 8,000 ปอนด์ หรือประมาณ สี่แสนกว่าบาทเพื่อปลูกผม แต่เขาก็ไม่ค่อยพอใจกับผลที่ได้รับเท่าใดนัก จากนั้นเจ้าตัวจึงนำภาพของจัสติน บีเบอร์ ไป พบกับแพทย์เพื่อนำไปแสดงให้ดูว่าจริงๆแล้วเขาอยากมีผ มเหมือนนักร้องหนุ่ม ชื่อดัง “ปลูกผมไปน่าจะประมาณ 3 ครั้งได้ หมดเงินไปล้านกว่าบาท เพื่อกระตุ้นรากผม ปลูกผมให้ขึ้นปิดขมับ และทำผมหน้าม้า” จนกระทั่งในที่สุดเจ้าตัวได้ทรงผมแบบจัสติน บีเบอร์สมใจอยาก
แล้ว เชลดอน ได้ยอมรับว่าเขาคลายกังวลเรื่องผมบางแล้ว แต่หันมาหมกมุ่นเรื่องริ้วรอยแห่งวัยแทนจนเกิดอาการก ลัวความแก่ จึงทำให้เขาตัดสินใจว่าเขาจะไม่หยุดเพียงแค่นั้น “ผมใช้ใบหน้าอ่อนเยาว์มีเสน่ห์ของเขามาเป็นแรงบั นดาล ใจให้กับผม ผมสามารถเปลี่ยนโครงหน้าและดูเด็กกว่าเดิมได้ก็ด้วยก ารทำศัลยกรรม” เชลดอน ได้ระบุว่าเขาชื่นชอบบีเบอร์ ตรงที่มีใบหน้าที่หล่อและดูอ่อนเยาว์ ไม่ใช่เรื่องของดนตรีแต่อย่างใด “ผมแทบไม่ได้ฟังเพลงของเขาแบบจริงๆจังๆ หรือลุ่มหลงเขาเพราะเขาเป็นคนดังเลย แต่เป็นเพราะใบหน้าของเขาที่ดูอ่อนเยาว์ ทุกอย่างที่ผมเปลี่ยนก็เปลี่ยนตามเขาโดยมีเขาเป็นต้น แบบนี่แหละ”
โดยหลังจากที่เขาปลูกผมจนรู้สึกว่าตนเองใกล้เคียงกับจัสติน บีเบอร์ แล้วเชลดอนยอมรับว่าเขาเติมริมฝีปากด้วยฟิลเลอร์เพื่ อให้ดูเด็กขึ้นกว่าเดิม จากนั้นก็ฉีดโบท็อกซ์ และฉีดสารเติมเต็มที่หน้าผากและขมับ เมื่อปี 2012 เขาใช้เงินกว่า 240,000 บาทไปกับการศัลยกรรมทำชั้นตาด้วย “ทำศัลยกรรมไปได้ 8 ครั้งแล้ว ก่อนที่ทุกๆคนจำต้องเห็นด้วยกับเรื่องไปทำตา ทุกคนคิดว่าผมบ้าที่หมกมุ่นกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ” โดยเชลดอน ได้ เผยเพิ่มเติมการทำศัลยกรรมครั้งล่า สุดของเขาคือ ศัลยกรรมรอยยิ้ม เพื่อเปลี่ยนหน้าถมึงทึงของเขาให้มีรอยยิ้มใกล้เคียง กับนักร้องหนุ่มวัย 19 ปีมากที่สุด ซึ่งการทำศัลยกรรมรอยยิ้มนี้ได้รับความนิยมอย่างมากใ นเกาหลี และตอนนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกามาตั้งแต ่ปีที่แล้วด้วยเช่นกัน
“ครั้งแรกตอนที่ผมค้นหาข้อมูลอย่างหนักเพื่อจะทำ หน้า ให้เหมือนจัสติน ผมแค่พุ่งความสนใจไปที่เรื่องความอ่อนเยาว์ของเขาอย่ างเดียว อย่างเช่นเรื่องของทรงผมและโครงสร้างใบหน้า” “แต่เมื่อผมได้ศึกษาจัสตินอย่างจริงจัง รวมถึงคนรุ่นหนุ่มสาวยุคนี้ มันเป็นเรื่องของรอยยิ้มที่ทำให้พวกเขาดูเด็กและดูอ่ อนเยาว์สดใส ถ้าคุณมองใกล้ๆ คุณจะสังเกตได้ว่าเมื่อคนหนุ่มสาวแค่เปิดปากนิดๆมันก ็จะโชว์ฟันบนของเขาโดย ธรรมชาติ ทำให้พวกเขามีรอยยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติแบบไม่ต้องใช้ ความพยายามอะไรเลย”
ทำให้เชลดอนต้องจ่ายเงินอีก 1,520,000 บาท ไปกับการศัลยกรรมยกริมฝีปากบน เย็บปิดริมฝีปากล่าง และยกมุมปาก เพื่อให้เขามีรอยยิ้มที่ดูอ่อนเยาว์แบบถาวร นอกจากนั้นเขายังดูดไขมันใต้คางเพื่อทำให้รอยยิ้มของ เขาดูสมูธขึ้น และนำไขมันที่คางไปฉีดเติมเต็มเข้าที่มือ ปาก และใต้ตาแทน แม้ว่าจะใช้เงินในการทำศัลยกรรมหมดไปกว่า 5 ล้านบาทเพื่อทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์เหมือนนักร้องหนุ ่มไอดอล แต่ โทบี เชลดอน ก็ยอมรับว่าเขายังไม่ประสบความสำเร็จบรรลุตามสิ่งที่ เขาได้ฝันไว้
“ผมรู้ครับว่ามีอะไรอีกหลายอย่างต้องทำเพื่อที่จ ะดูเ ปลี่ยนเป็นหน้า ของจัสติน บีเบอร์ แบบเหมือนเป๊ะๆ อย่างเช่นจมูกแล้วก็ลดกราม ซึ่งศัลยแพทย์ของผมก็ได้แนะนำมาเหมือนกัน” อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมเพื่อให้หน้าเด็กของเขาก็นับว่าประสบคว ามสำเร็จพอควร เมื่อเจ้าตัวระบุว่าพนักงานที่ร้านค้าต่างก็ไม่เชื่อ ว่าตอนนี้เขามีอายุได้ 33 ปีแล้ว ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าแม้จะไม่เหมือนจัสติน บีเบอร์อย่าง เห็นได้ชัดแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์จนเหมือนรุ่นเดียว กันก็ทำให้เขาพอใจในระดับหนึ่งแล้ว “สิ่งที่เหมือนกันของเราคงเป็นเรื่องทรงผม, รอยยิ้มที่ดูอ่อนเยาว์ และริ้วรอยแห่งวัยที่ตอนนี้ดูจะใกล้เคียงกัน เพียงแค่นี้ผมก็รู้สึกว่าในที่สุดผมก็เหมือนจัสติน บีเบอร์แล้ว ไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย”
โทบี เชลดอน เมื่อ 10 ปีก่อน และ โทบี เชลดอน ปัจจุบัน
ขอบคุณที่มาจาก ผู้จัดการออนไลน์
