เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่โรงพยาบาลราชวิถี นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี นพ.ธนรัตน์ ชุนงาม หัวหน้ากลุ่มงานอายุรศาสตร์ นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต พญ.เพชรรัตน์ ดุสิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและสมอง นพ.สุธรรม สุธีรภัทรานนท์ หัวหน้างานโรคหัวใจ. นพ.สุรพันธ์ พงศ์สุธนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ
ร่วมแถลงข่าวการรับตัว น.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน หรือ น้องมิน ป่วยเนื่องจากช็อกหัวใจหยุดเต้นระหว่างเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ มารักษาต่อที่ โรงพยาบาลราชวิถี
นพ.ธีรพล กล่าว่า โรงพยาบาลราชวิถีได้รับตัวน้องมินเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวาน ในหอผู้ป่วยหนักโรคหัวใจ (ccu) ขณะนี้อาการทรงตัว ยังไม่รู้สึกตัว มีการใส่สายสวนปัสสาวะ ให้อาหารทางสายยาง ยังมีปัญหาชักอยู่บ้าง เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นทำให้สมองขาดอ็อกซิเจนไปเลี้ยง และเลือดไปเลี้ยงไตไม่พอทำให้เกิดภาวะไตสายเฉียบพลัน สำหรับค่าใช้จ่ายนั้นตัวผู้ป่วยอยู่ในระบบประกันสังคมก็จะเบิกจ่ายตามนั้น แต่ไม่ครอบคลุมการรักษาทั้งหมด เพราะต้องใช้ยาที่ราคาสูง แต่ส่วนที่เกินมานั้นทางโรงพยาบาลราชวิถีเป็นผู้รับผิดชอบ
นพ.ธีรพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมามีคนไทยไปเจ็บป่วยต่างประเทศตลอด แต่ไม่เป็นข่าว ดังนั้น อยากให้คนที่เดินทางไปท่องเที่ยวประเมินตัวเองว่าไหวหรือไม่เพราะแต่ละที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งอากาศ เวลา เป็นต้น นอกจากนี้ ถ้าจะให้ดีอยากให้มีการทำประกันสุขภาพด้วยซึ่งราคาไม่แพง แต่ครอบคลุม อย่างไรก็ตาม นอกจากการท่องเที่ยวแล้วในส่วนของคนไทยที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยเฉพาะแถบอาเซียน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ใต้หวัน กรมการแพทย์ได้มีกาจัดส่งทีมแพทย์ไปตรวจรักษาโรคให้ด้วยปีละ 2-3 ครั้ง รวมถึงมีทีมแพทย์ติดตามผู้แสวงบุญด้วย
นพ.ธนรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้อาการน้องมินยังทรงๆ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยากันชัก ส่วนการทำงานของไตตอนนี้ฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาเรื่องไข้ ปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่ก็ดีขึ้นอาจจะมีการฝังเครื่องกระตุกหัวใจ แต่ต้องรอให้คนไข้พร้อมกว่านี้
อย่างไรก็ตาม การที่คนไข้เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมีการให้คีโมก็ผ่านมานานเป็น 10 ปีแล้ว และไม่มีหลักฐานว่าคีโมเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจหยุดเต้น ดังนั้นอาจเป็นที่วงจรไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ซึ่งเจอไม่บ่อยต้องหาสาเหตุต่อไป ส่วนที่ว่าลิ้นหัวใจรั่วนั้นไม่ใช่การเป็นรูรั่ว แต่เป็นเพราะกล้ามเนื้อหัวใจปิดไม่สนิท แต่ก็เป็นไม่มาก ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่นั้นต้องรอให้สมองฟื้นตัวก่อน ต้องบอกว่ามีโอกาสที่จะเป็นปกติ แต่คาดเดาได้ยาก ขณะเดียวกันก็มีโอกาสเป็นเจ้าหญิงนิทราต้องรอดูไปสักระยะ
ด้าน นางบังอร นาสะอ้าน แม่ของน้องมิน กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือน้องมิน และมีความคาดหวังว่าน้องมินจะกลับมา ที่ผ่านมาน้องเป็นหัวเรียวหัวแรงของครอบครัว เป็นเด็กมีความรับผิดชอบต่อการงานมาตลอด น้องเคยไปทำงานเกาหลีมาแล้วเพื่อหาประสบการณ์ก่อนเรียนจบ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ เงินบริจาคที่ได้รับมานั้นส่วนหนึ่งจ่ายค่ารักษาให้กับโรงพยาบาลที่เกาหลีใต้ไปแล้ว ที่เหลือก็จะนำไปผ่อนจ่ายค่ารักษาให้กับทางกงศุล และใช้เพื่อการรักษาน้องมินต่อไป ตอนนี้ได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว ทั้งนี้อยากขอให้เพื่อนๆ ของน้องหยุดตอบโต้ทางออนไลน์เพราะเป็นการต่อความยาวสาวความยืด