อยากดูอ่อนเยาว์ได้อย่างยาวนาน อย่าลืมมองหาคําว่า “Retinol” ในรายการส่วนผสมของครีมบํารุงผิวที่ใช้กันด้วย เพราะส่วนผสมที่เปรียบได้ดั่งทองคําชนิดนี้ แพทย์ผิวหนังทุกคนต่างยอมรับว่าช่วยต่อต้านความร่วงโรยได้แบบเห็นผลที่สุด
เรตินอล กรดไฮดรอกชี และวิตามินซี เป็นส่วนผสมแค่ 3 ชนิดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยต่อต้านริ้วรอยอย่างได้ผล และในบรรดาส่วนผสมทั้งสามนี้ เรตินอลก็ใช้ได้ผลดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันสิวและริ้วรอยได้อย่างดีแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาจุดด่างดํา รวมทั้งยังช่วยขัดลอกผิวให้ดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสขึ้นด้วย
เรตินอลจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวสื่อสารกับยีน ให้ผลิตคอลลาเจน กรดไฮยาลูรอนิก และอิลาสตินขึ้นมา ผิวจึงดูอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์ขึ้น สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ง่าย ไม่จําเป็นต้องทิ้งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลผิวทั้งหมดไป เพราะเราสามารถเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการทาเรตินอลปริมาณเท่าเมล็ด ถั่วเขียว ทับลงไปบนมอยส์เจอไรเซอร์ทุกๆ 3 วัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงค่อยปรับความถี่เป็นวันเว้นวัน เมื่อผิวปรับตัวดีแล้ว ก็สามารถใช้ทุกวันได้ แต่ถ้าผิวของใครไม่สามารถทานทนฤทธิ์ของเรตินอลแบบเข้มข้นได้ ก็ลองหามอยส์เจอไรเซอร์ดีๆ มาช่วยทําให้เจือจางลงได้
เทคโนโลยีใหม่ สามารถทําให้เรตินอลในสกินแคร์มีความอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น และถ้าทําทรีตเมนต์ในคลินิกแพทย์ สามารถเลือกประเภทที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์เรตินอลที่ผ่านๆ มานั้น มักจะอยู่ในระดับที่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ ทําให้หลายคนไม่กล้าใช้ เพราะกลัวเกิดอาการแพ้ ลอกเป็นขุยและรอยแดง แต่ตอนนี้ผู้ใช้มีความรู้มากขึ้น จึงเข้าใจแล้วว่าเรตินอลมีความเข้มข้นหลายระดับ แต่ละระดับก็ให้ผลที่แตกต่างกันไป แถมเทคโนโลยีในรอบสิบปีที่ผ่านมา ก็มีความก้าวหน้าขึ้นด้วย ทําให้เราเลือกใช้ให้ตรงกับผลลัพธ์ที่ต้องการได้ และเรตินอลก็ยังเป็นส่วนผสมเพียงอย่างเดียวในสกินแคร์ ที่ช่วยปรับสภาพพื้นผิวให้อ่อนเยาว์ เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้นได้จริง
••••••••••••
หากใช้ Retinoids ที่จ่ายโดยแพทย์ผิวหนัง ควรลงมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนแล้วจึงตามด้วย Retinoids บางๆ เพราะมอยส์เจอไรเซอร์มีส่วนผสมของกลีเซอรีน ช่วยบรรเทาอาการลอกแดงได้ดีค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com