กลายเป็นเรื่องที่ผู้มีรายได้น้อยพูดถึงกันในวงกว้าง หลังจาก สมอ. มีนโยบายเกี่ยวกับร้านขายของ ทุกอย่าง 20 บาท ห้ามขายของบางชนิด ซึ่งได้เรียกผู้ประกอบการร้านเช่าพั้นที่ขายตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าย่อยตามเขตชุมชนเข้ามาร่วมมารือถึงแนวทางจำหน่ายสินค้า ซึ่งถ้าทำผิดมี จับ ปรับ ติดคุก เพื่อให้เคลียร์สิ่งที่ค้างคาใจ
วันนี้ “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกร ได้เชิญ คุณสุพจน์ เลาหพัฒนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร้านเอโกะ (ร้านขายของ 20บาท) พร้อม คุณวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มาเปิดใจถึงเรื่องนี้
จริงๆ ร้านขายของ 20 บาทมีเยอะมั้ย
วันชัย “ตอนนี้มีเยอะมากทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ”
คุณสุพจน์ร้านขายของ 20 บาทมันอยู่ได้เหรอ
สุพจพน์ “อยู่ได้ครับ เพราะมันเป็นสินค้าขายง่าย เราอาจจะกำไรน้อยหน่อย ราคาถูก แต่เราขายจำนวนเยอะ แต่ละวันๆ เราขายเยอะ จำนวนชิ้นมันเยอะ ถามว่าเราไปขายที่ไหนบ้าง ร้านค้าทั่วไปจะอยู่ตามแหล่งชุมชน หน้าโรงเรียน หน้าโรงพยาบาล แถวหอพัก สถานศึกษา ตลาด ตลาดเครื่องสำอาง”
ลักษณะนี้เราไปก็อปจากญี่ปุ่นมาใช่มั้ย เขาขาย 60 บาทเราขาย 20 บาท
สุพจน์ “เราขาย 20 บาท ถ้า 60 บาทชาวบ้านจะซื้อไม่ไหว 20 บาทมันซื้อง่าย แต่ของต้องมีคุณภาพด้วย ไม่ใช่ 20 บาทแล้วก้องแก้งคุณภาพไม่ได้”
แต่ปัญหาตอนนี้คือของบางอย่างไม่มี อมก. ตามที่ สมอ. แถลงนโยบายว่าจำเป็นต้องมี ตอนนี้มีคนมาร้องเรียน
วันชัย “ตอนนี้มีคนที่ใช้ของ 20 บาท บางส่วนมาร้องเรียนว่าทำไมสินค้าที่ซื้อมาไม่ได้มาตรฐานเลย เราก็เลยเชิญผู้ประกอบการร้านค้า 20 บาท รวมถึงห้างต่างๆ ที่ให้พื้นที่เช่ามาชี้แจงทำความเข้าใจ ว่าการที่คุณจะเอา 20 บาทมาขาย ต้องดูนิดนึงนะว่ามีสินค้าบางประเภทที่ สมอ.บังคับ ต้องได้มาตรฐาน ซึ่งถ้าไม่ได้ห้ามขายก็จะมี 7-8 รายการ เราก็ให้ความรู้กับเขา”
เรื่องที่เขามาร้องมีอะไรบ้าง
วันชัย “หนึ่งใช้ไม่ได้แตกซะแล้ว พวกของใช้ที่แตกง่าย แต่คนที่มีความรู้มาร้องเรียนเยอะมากว่าของประเภทนี้ต้องมีมาตรฐานถึงจะขายได้ แต่ทำไมร้านค้าบางร้านขายได้”
เห็นบอกอย่างเช่นผงซักฟอก ร้านคุณมีมั้ย
สุพจน์ “ของผมไม่ได้ขาย บางร้านมีขาย”
วันชัย “ผงซักฟอกที่เอาไปขายก็จะเป็นเนื้อแป้ง บางร้านเราก็เห็นใจเขา เพราะเขาก็ไม่มีความรู้ ก็เลยเชิญมาทำความเข้าใจว่าก่อนจะรับมาขายให้สัญญาลักษณ์อันนี้นะ ถ้ามีเครื่องหมายนี้ขายได้”
ท่านเรียกมาแล้วใช่มั้ยครับมีทั้งหมดกี่ร้าน
วันชัย “ก็มีห้างใหญ่ 4-5 ราย และก็ร้านเล็ก”
แต่จริงๆ เขามีเยอะมาก แล้วร้านที่ไม่มาจะทำยังไง
วันชัย “เรื่องที่เขาไม่เข้ามารับความรู้หรือคำแนะนำ อันนี้ก็ไม่ทราบ แต่เราก็มีแผนของเราอยู่แล้ว ถ้าเราไปเจอก็ต้องดำเนินคดี ครั้งแรกเลยก็ชี้แจงให้เข้าใจและปรับ 5000 บาท ถึง 50000 บาท ต่อการกระทำผิด 1 ครั้ง มันเป็นลำดับความแรงของกฏหมาย ครั้ง ที่ 2 จาก 5000 บาท ก็เป็น 50000 บาท ครั้งที่ 3 เนื่องจากปรับสูงสุดได้ 50000 บาท เราก็ปรับไป แต่ถ้ายังปฎิบัติอีกก็คงจะส่งดำเนินคดี จำคุก 1 เดือน เราปรับก่อนเตือนก่อน”
ที่เขามาร้องจริงๆ คืออะไร สินค้าประเภทไหน
วันชัย “คือ เขาไม่ได้มาร้องที่ สมอ. โดยตรงนะ แต่เขาไปร้องที่สำรักนายกรัฐมนตรี แล้วก็ส่งเรื่องมา จริงๆ เรามีแผนตรวจติดตามอยู่นะ เป็นการซุ่มตรวจ จำดำเนินคดีเยอะ”
สินค้าที่ถูกร้องเรียนมาเยอะคือปลั๊กไฟ
วันชัย “บางร้านมีขาย แต่ยังไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม ยังอยู่กระบวนการบังคับให้ควบคุมตามกฏหมาย วันนี้เขาขายอยู่ก็ยังไม่ผิด หลักเลยเราต้องดูว่าสินค้านั้นมีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนใช้มั้ย ถ้าส่งผลเราก็บังคับทันที ปลั๊กก็เหมือนกัน สังเกตุได้ว่าการเกิดไฟไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจรมาจากปลั๊กที่ไม่ได้มารตฐาน พอเราจะบังคับก็มีกระแสต่อต้าน”
ร้านคุณมีมั้ยปลั๊กไฟ 20 บาท
สุพจน์ “ไม่มีครับ ร้านอื่นที่ผมเห็นตามท้องตลาดมีครับ 20 บาทขายได้ แต่ไม่มีคุณภาพ ถ้าผมแนะนำก็ไม่อยากให้ซื้อ ยอมจ่ายเงินมากอีกหน่อยหนึ่ง อาจจะ 80 บาท 90 บาท ไปซื้อที่มีคุณภาพใช้ดีกว่า อะไรที่มีความเสี่ยงอย่าซื้อของ 20 บาท คือผมก็เป็นห่วงชีวิตคนไทยเหมือนกัน แม้เราจะขายของ 20 บาท แต่เราขายของดี”
หลังจากมีข่าวมีผลกระทบกับอะไรบ้าง
สุพจน์ “ก็จะมีเพื่อนๆ ผู้ใหญ่หลายคนโทรมาถาม ว่าช่วงนี้เอ็งขายได้เหรอ ร้านที่เราเปิดจะขายของได้มั้ย คนจะซื้อสินค้าเรามั้ย เขาจะมองว่าสินค้าร้าน 20 บาทจะไม่มีคุณภาพ คือ เขามองแบบนั้นทั้งหมด เหมือนกับว่าเหมารวม ข่าวบางข่าวก็ดูรุนแรง 2 วันที่ผ่านมาลูกค้าโทรมาเยอะมาก”
อันนี้ท่านจะชี้แจงยังไง
วันชัย “ผมฝากร้าน 20 บาทเลยว่าท่านขายของได้กำไร ก็ยินดีด้วย แต่ท่านต้องมีคุณธรรม ของไหนที่ สมอ.บังคับ 7-8 รายการ ต้องได้มาตรฐาน เช่น ไม้ขีดไฟ ผงซักฟอก ของเล่น ไฟช็ก หัวนมยางดูดเล่น ซีนที่มาหุ่มห่ออาหาร แอลกอฮอล็แข็ง และสุดท้ายคือ สีเทียนที่เด็กใช้วาดเขียน ผมว่าถ้าไม่ได้คุณภาพอย่าเอามาขาย สำหรับผู้ซื้อท่านซื้อได้ แต่ต้องระวังคือ 7-8 รายการที่ว่ามา”
ติดตามชมการเปิดใจแบบหมดเปลือก ได้ในรายการ “โหนกระแส” วันนี้ 20.30-21.00 น. ช่อง 28