มอหินขาว เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคาตั้งอยู่ที่บ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง เป็นกลุ่มหินทรายสีขาวขนาดใหญ่กลางทุ่งหญ้าบนเนินเขา มองเห็นได้เด่นชัดในระยะไกล

11

 

ลักษณะคล้ายสโตนเฮ็นจ์ (Stonehenge) ของประเทศอังกฤษ มีอายุระหว่าง 175-197 ล้านปี เกิดจากการสะสมของตะกอนทรายแป้งและดินเหนียวจากทางน้ำ ต่อมาสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง การตกตะกอนเปลี่ยนเป็นทราย ในสภาวะอากาศแบบแห้งแล้งกึ่งร้อนชื้นทับถมลงบนตะกอนทรายแป้งและดินเหนียวที่เกิดก่อนจึงแข็งตัวกลายเป็นหิน

หลังจาก 65 ล้านปีที่ผ่านมา เกิดการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกจากแรงบีบด้านข้างทำให้มีการคดโค้ง แตกหัก ผุพังและการกัดเซาะทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ก่อให้เกิดลักษณะของเสาหินและแท่งหินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งมีรูปร่างและลักษณะแตกต่างกันออกไปตามจินตนาการของผู้พบเห็น

บริเวณรอบๆนั้นยังมีกลุ่มหินอีกหลายแห่งซึ่งสามารถเดินศึกษาธรรมชาติได้ ทั้งยังเป็นพื้นที่ศึกษาสังคมของพันธุ์พืชต่างๆ สัตว์ป่าขนาดเล็ก แมลงและเป็นแหล่งป่าต้นน้ำลำธารภูแลนคาซึ่งชาวบ้านทำฝายกั้นน้ำกักเก็บไว้ใช้

การเดินทางไปชมแหล่งท่องเที่ยวผามอหินขาว จากตัวจังหวัดชัยภูมิ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 ถนนสายชัยภูมิ – ตาดโตน เป็นทางลาดยางระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านของอุทยานแห่งชาติตาดโตน ตามถนนตาดโตน – ท่าหินโงม เป็นทางลาดยางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายตามถนนแจ้งเจริญ – โสกเชือก เป็นทางลูกรัง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรถึงบ้านวังคำแคน

จากนั้นเลี้ยวขวาตรงบ้านวังคำแคน เป็นทางลูกรังใช้สำหรับขนพืชไร่อีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร ถึง กลุ่มหินชุดแรกของ มอหินขาว รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตรจากตัวเมือง

ในช่วงฤดูฝนควรใช้รถยนต์ประเภทรถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อความเหมาะสมกับเส้นทาง ถัดจากกลุ่มหินชุดแรกไปเล็กน้อยจะถึงบริเวณลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำบริการ จากจุดนี้มีเส้นทางเดินไปยังกลุ่มหินและจุดชมวิว ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ระยะทางเดินเท้า 650 เมตร ลานหินต้นไทร 900 เมตร สวนหินล้านปี 1,250 เมตร และจุดชมวิวผาหัวนาค 2,500 เมตร

838100-topic-1419307297-3p

ถนนสู่มอหินขาว ถนนสู่มอหินขาวจะค่อยๆ ขึ้นเนินไปเรื่อย ระหว่างทางก็มีรถอีแต๋นของชาวบ้านผ่านไป-มาเป็นระยะ เป็นวิถีชีวิตที่จะเห็นได้โดยง่าย บางคนชอบภาพแนววิถี ก็จะดักถ่ายภาพกันไป โปรดระวังความปลอดภัยกันด้วยนะคะ ขอให้ขับรถกันช้าๆ เพราะชาวบ้านก็ขับช้าเช่นกัน

แต่บางทีกินเลนมาบ้างก็มี เพราะไม่มีเส้นแบ่งถนน ระหว่างทางขึ้น จะมีรีสอร์ทและบ้านพักอยู่ริมถนนอยู่เป็นระยะ แต่ก็ไม่มากนัก พอผ่านรีสอร์ทไปแล้ว ก็จะเห็นเสาหินอยู่ลิบๆ นั่นไง

838100-topic-1419307297-2p

ถึงแล้ว มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย เสาหินกลุ่มแรก คือเสาหิน 5 ต้น ตั้งสูงตะหง่านยิ่งใหญ่ท่ามกลางเนินราบเรียบน่าอัศจรรย์ ดังกับว่ามีคนเอาเสาหินมาตั้งไว้บนนี้

“มอหินขาว” ชื่อนี้แปลว่าอะไรกันนะ คำว่า “มอ” เป็นภาษาพื้นบ้านหรือภาษาอีสานที่แปลว่า “เนินเขาที่ไม่สูงมากนัก” ส่วน “หินขาว” ก็มีที่มาโดยชาวบ้านเล่าว่าทุกคืนวันพระ มองขึ้นมาบนเนินเขานี้ จะเห็นแสงสีขาวจ้าส่องขึ้นจากกลุ่มเสาหินสูงใหญ่เหล่านี้ชาวบ้านก็เล่าต่อกันไปปากต่อปาก

ก็เริ่มมีผู้สนใจมากขึ้น ด้วยคิดว่าเป็นสิ่งแปลกที่จะมีแท่งหินอยู่บนเนินเขาที่เป็นดินทราย มีลักษณะเหมือนสโตนเฮนจ์ที่ประเทศอังกฤษ ก็พากันขึ้นมาดูจนมากขึ้นเรื่อยๆ และแล้วมอหินขาวก็ได้รับเลือกเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen in Thailand โดยเมื่อปีที่พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย เป็นพีเซนเตอร์ของ ททท. ก็ได้มาถ่ายทำเพื่อโปรโมทมอหินขาวให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้รู้จักด้วย โฆษณาทางทีวีคงเคยได้เห็นกันบ่อยๆ

838100-topic-1419307297-4p

เสาหิน 5 แท่ง เสาหินทั้ง 5 ต้นนี้ แต่ละต้นก็มีเอกลักษณ์ความสวยงามและรูปทรงแปลกๆ แตกต่างกันออกไป บ้างก็ว่าเหมือนหน้าคน เสาหินต้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่ากับ 20 คนโอบ ความสูงจากพื้นดินประมาณ 12 เมตร ตั้งแต่ได้รับการโปรโมท เสาหินแต่ละต้นก็มีชื่อเรียกขึ้น ตามความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่

838100-topic-1419307297-5p

 

 

เสาหินหลวงปู่ฤาษี เสาต้นนี้ใหญ่ที่สุด มีชื่อว่า หลวงปู่ฤาษี เชื่อว่า ถ้าได้กราบไหว้ จะได้รับพรในด้านโชคลาภ ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยจะหายเร็ววัน


838100-topic-1419307297-5p

เสาหินขุนศรีวิชัย เสาต้นนี้อยู่ห่างจากกลุ่ม มีชื่อว่า ขุนศรีวิชัย เชื่อว่า ถ้าได้กราบไหว้ จะได้รับพรในด้านชัยชนะ รูปร่างลักษณะเหมือนคนยืนยึดอก เงยหน้ามองฟ้า แต่ต้องมายืนมองมุมนี้นะคะถึงจะดูว่าเหมือน ถ้ามองมุมอื่นจะไม่เหมือน

838100-topic-1419307297-2p

ผาหัวนาค ที่มอหินขาว นอกจากไฮไลท์สโตนเฮนจ์เมืองไทยนี้แล้ว ยังมีกลุ่มหินอีก 2 กลุ่ม ซึ่งจะต้องนั่งรถขึ้นเนินไปอีก จากเสาหิน 5 แท่ง จะผ่านส่วนบริการนักท่องเที่ยวซึ่งใช้เป็นจุดกางเต้นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักแรมดูดาว

อย่าลืมมาท่องเที่ยวในช่วงท้ายปี กับ บรรยากาศดีๆ นะคะ !

ที่มา www.touronthai.com

เรื่องน่าสนใจ