หลังเหตุการณ์ข่มขืนกระทำชำเราที่สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ ล่าสุดทางการอินโดนีเซียระบุเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า หนึ่งในมาตรการเพื่อจัดการกับปัญหาการทารุณกรรมทางเพศในอินโดนีเซียก็คือการฝังไมโครชิพเพื่อติดตามตัว คนร้ายคดีข่มขืนหลังออกจากคุก
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุรุมข่มขืนเด็กหญิงวัย 14 ปีที่กำลังเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียนในเมืองทางตะวันตกของเกาะสุมาตราเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยร่างของเด็กหญิงในสภาพเปลือยและถูกมัดถูกพบหลังจากเกิดเหตุเป็นเวลา 3 วัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมวัยรุ่นวัยระหว่าง 16-17 ปีเอาไว้ได้ 7 คน ทั้งหมดได้รับโทษจำคุกในสัปดาห์นี้ ขณะที่ชายอีก 5 คนอยู่ระหว่างการไต่สวน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของสาธารณะหลังจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวโพสต์เรื่องราวดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย
ด้านนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ประกาศว่าจะผลักดันกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น ขณะที่โฆษกกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า หนึ่งในมาตรการที่กำลังพิจารณาอยู่ก็คือการฝังไมโครชิพไว้ที่ข้อเท้านักโทษคดีข่มขืน
“ไมโครชิพจะถูกฝังก่อนที่นักโทษจะถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำเพื่อติดตามตำแหน่งหลังจากการถูกปล่อยตัวไปแล้ว” อาสโรรัน เนียมโชเลห์ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อคุ้มครองเด็ก กลุ่มเเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ผู้ที่มีส่วนร่วมในการพิจารณาแก้ไขกฎหมายซึ่งเตรียมที่จะมีการลงนามในอีกไม่กี่วันข้างหน้าระบุ ขณะที่รายงานระบุว่ามาตรการทำหมันและการเพิ่มโทษจำคุกก็เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่จะเริ่มบังคับใช้ด้วย