นำเสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพจาก mthai
จากที่ขณะนี้กำลังมีแฟชั่นกำไล หินสี ระบาด ขายกันเป็นล่ำเป็นสันตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน บางเส้นราคาพุ่งสูง ซึ่งผู้ที่สวมใส่เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตสุขภาพ ร่างกายแข็งแรง หน้าที่การงานดี และร่ำรวย
โดย ผู้สื่อข่าว เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอท รายงานว่า เอ็มไทยได้เสนอความคิดของ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิชาการวิทยาศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
ตอนนี้มีสื่อหลายสำนักแล้วที่โทรมาขอความเห็นเรื่อง “หินสี” ที่กำลังเป็นที่นิยมซื้อหากัน ด้วยคำบรรยายประกอบว่าจะมีพลังทำให้ความรักดีขึ้น การงานดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น บางเส้นเห็นว่าราคาเป็นหมื่นเป็นแสน
ตนได้เข้าไปอ่านสรรพคุณของ หินสี ที่ว่า ตามเพจต่างๆ แล้วก็คิดว่า มันก็ออกจะเป็นแค่แนวความเชื่อศรัทธาตามกระแสนะ ถ้าหินพวกนี้จะมีพลังอะไรออกมาได้ อย่างมากก็แค่ว่าจะมีรังสีออกมา
ถ้าหินนั้นเป็นแร่ธาตุกัมมันตรังสี (อันตรายอีก) การที่จะได้ผลหรือไม่ได้ผล ก็ขึ้นกับความเชื่อ กับอุปาทานของแต่ละคนเอง
ตัวอย่างเช่น ถ้าทางวิทยาศาสตร์ก็มีคนศึกษาเหมือนกัน เกี่ยวกับเรื่อง หินคริสตัลบำบัดโรค ว่าได้ผลจริงหรือเปล่า ในปี 2001
ทีมนักวิจัยด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยลอนดอนที่อังกฤษ ได้ให้อาสาสมัคร 80 คนมานั่งสมาธิ 5 นาทีโดยครึ่งหนึ่งถือก้อนคริสตัลจริง อีกครึ่งหนึ่งถือก้อนปลอม (แต่หลอกว่าเป็นคริสตัลจริง) พบว่า
ถึงจะมีการรายงานผลจากอาสาสมัครหลายคนว่ารู้สึกตัวอุ่นขึ้น รู้สึกสุขภาพกายสุขภาพใจดีขึ้น ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องขึ้นกับว่าถือหินก้อนคริสตัลจริง
แถมคนที่ศรัทธาในหินอยู่แล้ว ก็ยังจะรายงานว่ารู้สึกได้พลังจากหินมากกว่าคนที่ไม่ศรัทธาถึง 2 เท่า แม้ว่าจะถือหินปลอมด้วยซ้ำ
เรื่องนี้จึงสรุปทางวิทยาศาสตร์ได้ว่า เป็นอุปาทานยาเทียม หรือ อุปาทานพลาเซโบ้ placebo effect