เนื้อหาโดย : โดดเด่นดอทคอม
อบเชย เป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม ได้มาจากเปลือกไม้ชั้นในที่แห้งแล้วของต้นอบเชย แท่งอบเชยมีสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเหมือนแผ่นไม้แห้ง ที่หดงอหลังจากโดนความชื้น มักจะเรียกตามแหล่งเพาะปลูกเช่น อบเชยจีน อบเชยลังกา อบเชยญวน เป็นต้น ในประเทศไทยไม่นิยมปลูกเพราะภูมิอากาศไม่เหมาะสม
ในสมัยโบราณ อบเชยเป็นยาขนานเอกที่คนไทยใช้บำบัดนานาอาการเจ็บป่วย เพียงลอกเปลือกไม้จากต้นอบเชย ต้มในน้ำเดือด ก็กลายเป็นยารักษาอาการอาหารไม่ย่อย แก้ท้องเสีย ขับลม ขับพยาธิ หรือหากบดเป็นผง ปรุงเป็นยานัตถุ์ ก็สามารถใช้แก้อาการปวดศีรษะ แก้ไข้ แก้ไอ อ่อนเพลีย ไปจนถึงโรยบนแผลเปิดเพื่อช่วยห้ามเลือด และเร่งการสมานแผล
อบเชย มีสรรพคุณทางยา เนื่องจากมีแทนนิน (Tannin) สูงที่ให้รสฝาดจึงนิยมใช้ในยาตำรับแผนโบราณเช่น เป็นส่วนผสมในยาหอมต่าง ๆ โดยใช้ส่วนของเปลือกลำต้น ใช้ในการแก้จุกเสียด แน่นท้อง หรือใช้ในการทำยานัตถุ์ใช้สูดดม เพื่อเพิ่มความสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย แก้โรคท้องร่วงเพราะมีส่วนช่วยต้านแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ ช่วยในการย่อยอาหาร และสลายไขมัน ส่วนเปลือกลำต้นอายุมากกว่า 6 ปี หรือใบกิ่งยังนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยได้อีกด้วย ซึ่งจะมีมากในอบเชยญวนที่ให้น้ำมันหอมระเหย 2.5%
ประโยชน์ของอบเชย
1. รักษาความจำ
หมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของอบเชย ไม่ได้เพียงแต่ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นเพียงอย่างเดียว มีการศึกษาหนึ่งของมหาวิทยาลัยฮวีลลิง เยซูอิต พบว่า ผู้ที่เคี้ยวหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของอบเชยสามารถทำบททดสอบเกี่ยวกับความจำได้ดีมากกว่าคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งรสชาติอื่นหรือคนที่ไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่งด้วย
2. บรรเทาอาการเจ็บคอ
อาการไอสามารถบรรเทาได้ด้วยเครื่องดื่มผสมอบเชย โดย Lillian M. Beard ผู้เขียนหนังสือ Salt in Your Sock and Other Tried-and-True Home Remedies ได้อธิบายสูตรบรรอาการเจ็บคอด้วยอบเชยเอาไว้ว่า ให้นำแท่งอบเชยแช่ลงในน้ำเย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วค่อย ๆ จิบ มิวซิเลจที่อยู่ในอบเชยและไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้จะไปช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
3. เป็นของว่างสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก
หากคุณเป็นคนที่ติดขนม แต่ต้องการลดน้ำหนักล่ะก็ อบเชยช่วยคุณได้ล่ะ โดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ค้นพบว่าอบเชยเป็นเครื่องเทศที่ช่วยควบคุมความแปรปรวนของระดับน้ำตาลและลดความหิวได้ แค่เพียงโรยอบเชยลงบนแอปเปิลอบก็จะได้ของว่างที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักเลยเชียว เพราะแอปเปิลเองก็เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ และอบเชยก็ช่วย ลดไขมัน เรียกว่าแท็คทีมกันลดน้ำหนักแบบคูณสองเลยเนอะ
4. บำรุงเท้าให้เนียนนุ่ม
สารต้านอนุมูลอิสระในอบเชยจะช่วยทำให้ผิวที่หยาบและหนาใต้ฝ่าเท้าอ่อนนุ่มลงได้ ด้วยสูตรจาก Elizabeth TenHouten ผู้เขียนหนังสือ Cooking Well: Beautiful Skin โดยผสมน้ำมะนาว 5 ผลกับน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ นม 1/4 ถ้วย น้ำ 1/2 ถ้วย และผงอบเชย 2 ช้อนโต๊ะ แล้วแช่เท้าเป็นเวลา 15 นาที ทำบ่อย ๆ ก็จะช่วยทำให้ผิวหนังบริเวณเท้านุ่มขึ้นค่ะ
5. แก้ลมวิงเวียนและจุกเสียดแน่นและลงท้อง
6. รากอบเชยไทย นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการปวดหลังปวดเอว
เชื่อว่าหลายคนที่เคยมองข้ามอบเชยไปก็คงจะเริ่มสนใจกันขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปลองใช้กันดู เผื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงยังไงล่ะจ๊ะ แต่!!… มีข้อควรระวังเล็กน้อยคือ งดใช้ในเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 2 ขวบ หรือผู้ที่มีปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขัด เป็นโรคริดสีดวง อุจจาระแห้งแข็ง และหญิงมีครรภ์ ไม่ควรกินอบเชย และห้ามกินน้ำมันอบเชย เพราะจะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน และเป็นอันตรายต่อไตได้ ค่ะ
ข้อมูลจาก : health, สมุนไพร.ไทย : Herbal.in.th, wikipedia