เรียกว่าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนเลย สำหรับนางเอกสาว เชียร์ ฑิฆัมพร ที่มาเปิดใจเรื่องความรักในทุกมิติผ่านรายการ Club Friday Show ตอนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 พูดหมดทั้งเรื่องความรักในอดีตและปัจจุบัน แต่มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นการเปิดเผยความลับที่เก็บมานาน เป็นความรักกลางกองถ่ายที่เคยสานสัมพันธ์กับคนในวงการ
โดยเชียร์เล่าว่า เป็นความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นกลางกองถ่ายละครเรื่องหนึ่ง ฝ่ายชายเป็นคนเข้ามาจีบก่อน จากเดิมที่เราแสดงกันปกติ ทำงานกันปกติ แต่พอเริ่มได้รับการดูแลอะไรบางอย่าง มีการคุยกันนอกรอบ โทร. มา มีการเทกแคร์อะไรบางอย่างมากกว่าคนอื่น การแสดงออกค่อนข้างชัดเจน สิ่งที่ชอบในตัวผู้ชายคนนี้ คือ การที่ได้รับการดูแล เรารู้สึกดีกับการที่ได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้ สถานะยังไม่ถึงขนาดเป็นแฟนกัน แต่มีการคุยเป็นห่วงเป็นใยกัน เหมือนอยู่ในช่วงคุยๆ กัน
แต่วันหนึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จากที่คุยกันอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็ไม่คุยกับเราเหมือนเดิม ไม่รู้เขาเป็นอะไร ไม่ได้โกรธกันด้วย เหมือนคนไม่รู้จักกัน มึนตึง ทำตัวเมิน ๆ ซึ่งมันแปลกมาก ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกัน เหมือนวันนี้คุยกันอยู่ดี ๆ พรุ่งนี้ก็หายไป แล้วพอเจอหน้าก็กลายเป็นไม่คุยกันเหมือนเดิม แต่ยังเข้าซีนเล่นละครกันได้ แต่พอสั่งคัตแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เชียร์ก็ไม่ถามเขา เพราะถ้าเขาเลือกที่จะเมินเราได้ขนาดนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ให้เราเหมือนเดิม แล้วเราจะไปหาคำตอบอะไรอีก
แต่ถามว่าเสียใจไหม ก็รู้สึกเสียใจ เพราะว่ามันช็อก จากคนที่คุยกันอยู่ดีๆ พอเจอก็กลายเป็นว่า อ้าว… ทำไมไม่คุยกันเหมือนเดิม ไม่บอกอะไรเราด้วย ซึ่งทำให้เราอึดอัดจนมีน้ำตา เพราะยังต้องทำงานด้วยอยู่ ตอนนั้นเราเดินไปกำลังจะเข้าฉาก พอเจอเขาเป็นอย่างนั้นแล้วมันรู้สึกมันออกมาเป็นน้ำตา พอเรารู้ว่าน้ำตามันจะไหล เราก็ปลีกตัวขอเข้าห้องน้ำ แล้วเดินออกจากฉากเพื่อไปปาดน้ำตา แล้วบอกตัวเองว่า “เฮ้ย! อย่าไปเป็นอย่างนี้ ฮึบค่ะฮึบ แล้วเดินกลับไปทำงานใหม่”
ถ้าย้อนกลับไปเชียร์ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เราคิดว่าถ้าคนคนหนึ่งไม่ได้อยากรักเราก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกกับเราแล้วทำอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่สาเหตุที่เรามีน้ำตาก็แค่เพราะว่าเราไม่เข้าใจ มันเหมือนกดปุ่มสับสวิตซ์ สำหรับผู้ชายคนนี้ทุกวันนี้ก็ยังรู้จักกันสนิทและหวังดีต่อกันทุกอย่าง รักกันในแบบเพื่อนพี่น้อง แต่เราไม่เคยคิดจะถามเขาเรื่องนี้ เชียร์เป็นคนไม่ชอบเสียใจนานเพราะเรายังคงต้องอยู่หน้ากล้อง ต้องอยู่หน้าจอ ถ้าเรายังจมดิ่งกับอะไรบางอย่างแล้วจะเอาพลังที่ไหนไปทำหน้ากล้องให้มีพลัง
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวทำให้แฟนคลับต่างสงสัยกันว่าหนุ่มดังกล่าวเป็นใครกัน ซึ่งเชื่อว่าต้องเป็นระดับพระเอกแน่ๆ เนื่องจากต้องเข้าฉากกันใกล้ชิด ซึ่งก็พากันคาดเดากันไปต่างๆ นานา… แล้วคุณล่ะคิดว่าเป็นใคร
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่