เตือนใช้ซิลิโคนเหลวเสริมจมูก คาง อันตรายอาจถึงตาบอด
เตือนใช้ซิลิโคนเหลวเสริมจมูก คาง อันตราย ลักษณะรูปจมูกบวมผิดรูป บูบี้ บิดเบี้ยว เกิดกับผุ้ที่ทำศัลยกรรมฉีดจมูกด้วยซิลิโคนเหลวเข้าไปอาจถึงตาบอดได้
โดย พล.ตท.นพ.อรรถพันธ์ พรมณฑารัตน์ นายกสมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เพื่อเสริมสวยฯ อธิบายว่า การเสริมจมูกและคาง นอกจากการเสริมซิลิโคนแบบแท่งแล้วมักจะใช้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มที่เป็นของเหลวฉีดเข้าร่างกายด้วยเข็มฉีดยา ซึ่งฟิลเลอร์มี 2 ประเภท คือ
ชนิดที่อยู่ชั่วคราวที่แบบที่สลายได้ ที่เรียกว่า ไฮยาลูโรนิก ชนิดนี้ได้รับอนุญาติจากอย.ให้ใช้ได้ และใช้ในปริมาณที่จำกัด
ชนิดที่อยู่ถาวร ไม่สลายตัวเช่น พาราฟิลเหลว ซิลิโคนเหลว ไบโอพลาสติก รวมถึงฟิลเลอร์ต่างๆที่นำเข้าจากต่างประเทศ ชนิดนี้ มักพบปัญหาทำปฏิกริยาต่อเนื้อเยื่อและผิวหนัง
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน หรือซิลิโคนเหลว จะมีส่วนประกอบของน้ำมันเทมาที่พื้นมันจะลื่น พอเข้าไปในร่างกายแล้วร่างกายจะก่อกำแพงล้อมเพื่อไม่ให้สารแทรกซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อ ทำให้แทรกซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อ เกิดเป็นเนื้องอกชนิดหนึ่งที่เป็นก้อนแข็ง แข็งมากน้อยขึ้นอยู่กับสาร
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ทำศัลยกรรมแบบฉีดแบบไม่สลายตัว มีมากกว่าฉีดแบบสลายตัวรวมถึงการเสริมซิลิโคนแบบแท่ง รวมถึงการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงและแก้ไข ชนิดไม่สลายตัวก็ทำได้ยากกว่า คนไข้ที่ผ่าตัดเอาซิลิโคนออก เมื่อใช้ไฟส่องจะเห็นว่าเนื้อเยื่อภายในเหลืออยู่น้อยมาก
เคยมีคนไข้ที่เกิดผลกระทบจากการฉีดสารที่ไม่สลายเข้าในจมูกรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้ และที่เจอบ่อยๆคือจมูกดำ จากนั้นจมูกจะทะลุ แต่ ที่ได้รับความนิยมเพราะการฉีดทำได้ง่ายใช้เวลาไม่นานเพียง 3-5 นาที กลับบ้านได้เลย ซึ่งแตกต่างจากการผ่าตัดที่จะต้องมีการพักฟื้นการบวม ทำให้คนไข้กลัวที่จะต้องผ่าตัด จึงเลือกวิธีที่ดูง่าย แต่ไม่เข้าใจผลกระทบ ยิ่งหากคนฉีดที่ไม่ใช่แพทย์ ก็จะโน้มน้าวให้ฉีด ว่าไม่มีปัญหา
ล่าสุดการประชุมของอนุกรรมการคุ้มครองประชาชนจากการประกอบวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับการศัลยกรรมตกแต่งการเสริมสวยและการโฆษณา พิจารณาผลกระทบจากการใช้ซิลิโคนเหลวพบว่า ซิลิโคนเหลวซึ่งเป็นหนึ่งในสารประเภทที่ไม่สลายตัวส่งผลกระทบทำให้รูปหน้าเสียทรง ผิดรูปร่าง จึงเตรียมส่งเรื่องให้คณะกรรมการแพทยสภา ในวันที่ 12 กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาออกเป็นประกาศห้ามใช้ และกำหนดบทลงโทษในกรณีมีผู้ผ่าฝืนต่อไป
ขอบคุณข่าวจาก tpbs