diy

ขณะนี้ในสังคมออนไลน์ ได้มีการเผยแผ่ข้อมูลเกี่ยวกับการทำฟันขาวเป็นจำนวนมาก วันนี้ผมเลยจะขอมาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อย

1. เบกกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต นั้นมีคุณสมบัติในการช่วยขจัดคราบ
ดังนั้น เมื่อใช้แปรงฟันลักษณะของมันที่เป็นผง ร่วมกับคุณสมบัติช่วยขจัดคราบ จึงทำให้สามารถขจัดคราบต่างๆออกจากผิวฟันได้ เช่น คราบจากอาหาร ชา กาแฟ บุหรี่ พอคราบถูกทำความสะอาดออกไป ฟันจึงดูขาวขึ้น แต่ไม่แนะนำให้ใช้บ่อยครับ เพราะเนื่องจากมีลักษณะเป็นผง อาจทำให้เนื้อฟันบางลงถ้าใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ

2. เบกกิ้งโซดาไม่มีฤทธิ์ในการฟอกสี
การฟอกสีฟันที่ทันตแพทย์นั้น จะใช้น้ำยาที่มีคุณสมบัติในการฟอกสี คือ น้ำยาที่สามารถมีการแตกตัวเป็นออกซิเจนได้ ซึ่งออกซิเจนที่แตกตัวออกมาจะซึมเข้าสู่เนื้อฟัน เข้าไปย่อยแร่ธาตุที่สะสมในเนื้อฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของสีเหลืองของฟันให้ลดลง โดยไม่กระทบต่อโครงสร้างเนื้อฟัน แต่เบกกิ้งโซดาไม่มีฤทธิ์ดังกล่าว จึงไม่สามารถฟอกสีฟันให้ขาวจากภายในเนื้อฟันได้

3. เบกกิ้งโซดา ผสมน้ำมะนาว ช่วยให้ยิ่งขาวขึ้นไหม
ตอบเลยว่า ขาวในตอนแรกฟันพังในตอนจบ เพราะอะไร เช่นกันพอผสมทั้งสองเข้ากันจะเกิดฟองซึ่งเป็นฟองของ คาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ใช่ออกซิเจน จึงไม่มีฤทธิ์ฟอกสีแต่อย่างใด แต่การผสมทั้งคู่อาจช่วยเพิ่มการช่วยขจัดคราบให้มากขึ้น ซึ่งใช้นานๆที ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใช้บ่อยมีปัญหาแน่ๆ เนื่องจากน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด จะทำหน้าที่เปลี่ยนสภาพเนื้อฟันให้อ่อนแอลง ทำลายโครงสร้างเนื้อฟัน แล้วยิ่งขัดด้วยเบกกิ้งโซดาซึ่งมีลักษณะเป็นผงอยู่แล้ว ก็ยิ่งขัดให้เคลือบฟันบางลง สุดท้ายฟันที่ดูขาวสวย สภาพก็จะกลายเป็นฟันที่ดูเหลือง เพราะเคลือบฟันบางจนเห็นถึงชั้นเนื้อฟัน(เหมือนในรูป)

ดังนั้นการอยากฟันขาว ต้องมีสติครับ ถ้าใช้เบกกิ้งโซดาเพื่อหวังฟันขาว ก็ให้ใช้แค่คราบบนผิวฟันหมด เห็นผิวฟันจริงๆของเรา มันขาวได้แค่ไหนก็นั้น อย่าดันทุลังใช้ทุกวันเป็นระยะเวลานาน เพราะจากฟันขาวจะกลายเป็นฟันพังได้ครับแต่หากอยากฟันขาวจากการเปลี่ยนสีของเนื้อฟันจริงๆ คงต้องปรึกษาทันตแพทย์เท่านั้นครับ
ขอบคุณความรู้จาก  หมอนัท Sakura Dental & Implant Clinic

ป้ายกำกับ:

เรื่องน่าสนใจ