ตำนานการเกิดบั้งไฟพญานาค ตามพุทธประวัติเชื่อว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พระองค์ได้เสด็จเผยแผ่ศาสนาไปทั่วชมพูทวีป พญานาคีบังเกิดความเลื่อมใสและศรัทธายิ่ง จึงจำแลงกายเป็นบุรุษขอบวชเป็นสาวก ค่ำคืนหนึ่งพญานาคีเผลอหลับใหลคืนร่างเดิม พระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่อง จึงขอให้ลาสิกขา เนื่องจากเป็นเดรัจฉาน จะบวชเป็นภิกษุไม่ได้ พญานาคียอมตามคำขอ แต่ขอว่ากุลบุตรที่จะบวชให้เรียกขานว่า “นาค” เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของพญานาคก่อนค่อยเข้าโบสถ์
จากนั้นเป็นต้นมาจึงเรียกกุลบุตรทั้งหลายที่จะบวชว่า “พ่อนาค”ต่อมาเมื่อครั้งพระพุทธเจ้า ได้เสด็จจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อกลับสู่ โลกมนุษย์ เหล่าบรรดาพญานาคี นาคเทวี พร้อมทั้งบริวาร ได้จัดทำเครื่องบูชาและพ่นบั้งไฟถวาย ชาวบ้านเรียกว่า “บั้งไฟพญานาค” ในปัจจุบัน
กาลเวลาผ่านไปพญานาคเริ่มหมดอายุไขไปทีละน้อยจนกระทั่ง เหลือพญานาคเพียงคู่เดียว พญานาคคู่นี้ทำหน้าที่พ่นบั้งไฟในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ตามที่รับมอบหมายมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลและคอยเฝ้าสุสานพญานาคตัวสุดท้ายซึ่งหมดอายุขัยไปนานแล้วกาล เวลาผ่านไปร่างกายของพญานาคตัวสุดท้ายก็ค่อยๆสลายไปเหลือแต่ดวงตาสองดวงซึ่งเชื่อว่ายามจันทร์เต็มดวงขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ในปีที่ลงท้ายด้วยเลข 1 (เอ็ด) ดวงตาจะเปล่งแสงออกมาซึ่งเป็น แสงที่ทำให้ชีวิตเป็นอมตะไม่มีวันเจ็บไม่มีวันตายทำให้คนโบราณ ที่มีวิชาอาคมต่างเสี่ยงอันตรายดำดิ่งลงไปเพื่อค้นหาดวงตาคู่นี้แต่ก็พบกับความวิบัติความตายไม่มีใครทำได้สำเร็จ
มีพี่น้องสองคนที่มีอาคมแก่กล้า จับยามสามตารู้ว่า เวลาที่พญานาคจำศีลกำลังจะมาถึง ซึ่งแต่ละครั้งเป็นเวลานานถึง 500 ปี
เมื่อพญานาคสองตัวเข้าจำศีล พี่น้องสองคนก็ลงไปเอาดวงตาพญานาคขึ้นมาจนได้ แล้วแบ่งกันเป็นสมบัติคนละดวง โดยหารู้ไม่ว่าแม้พญานาคทั้งสองจะจำศีลถึง 500 ปี แต่ทุกปี ก็จะรู้สึกตัวขึ้นมาหนึ่งวัน คือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 พญานาคคู่นี้จะตื่นขึ้นมาพ่นบั้งไฟถวายพระพุทธเจ้าตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาตั้งแต่โบราณกาล
เมื่อพญานาคทั้งสองตื่นขึ้นมาพ่นบั้งไฟถวายดังกล่าวก็พบว่าดวงตาทั้งสองดวงที่ตนเฝ้ารักษาหายไปเกิดโทสะบิดตัวไปมาทำให้น้ำในแม่น้ำโขงปั่นป่วนท่วมบ้านเมืองเสียหายและคร่าชีวิตคนตายไปหลายร้อยคนในปีนั้นโชคดีที่ผ่านพ้นไปหนึ่งวัน
พญานาคทั้งสองต่างต้องกลับเข้าสู่ภาวะจำศีล จนกว่าจะครบหนึ่งปีอีกครั้งหนึ่ง เชื่อกันว่าเมื่อครบ 500 ปี พญานาคทั้งสองพ้นจากภาวะจำศีลเมื่อใดถ้าไม่พบดวงตาคู่นี้ก็จะต้องโกรธจะปรากฏร่างอาละวาดเกิดคลื่นปั่นป่วนน้ำท่วมทำลายชีวิตผู้คนพร้อมพ่นไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญทุกอย่างให้วอดวาย
แต่สองพี่น้องต่างยังคงเก็บดวงตาไว้คนละดวงไม่ยอมเอาดวงตาไปคืนเฝ้ารอวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ในปีที่ลงท้ายด้วย 1 (เอ็ด) เพื่อให้ดวงตาเปล่งประกายแสงเพื่อตนจะได้อาบแสงและมีชีวิตเป็นอมตะเมื่อถึงเวลาต่างก็เอาดวงตาที่ได้มาแอบไปทำพิธีอาบแสงแต่พอแสงปรากฏกลับเป็นรังสีที่ร้อนแรงทำให้พี่น้องทั้งสองคน ตาบอดอาถรรพ์นี้กระจายไปทั่วจนต่อมาจึงขนานนามดวงตาสองดวงนี้ ว่า “เนตรนาคราช”
ข่าวสองพี่น้องตาบอดกระจายออกไป ทำให้ผู้มีฝีมือมากมายบุกมา เพื่อแย่งชิงเนตรนาคราชหมายเอาไปครอบครอง เกิดการต่อสู้แย่ง ชิงล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
เนตรนาคราชสองดวงถูกแย่งชิงไปคนละทิศละทางสูญหายไปอย่างไร้ร่อง รอยจนกระทั่งทุกวันนี้และ นี้คือปีที่ครบ 500 ปี ตามตำนาน ที่เล่ามา
ถ้าเนตรนาคราช คู่นี้ยังไม่ได้นำส่งกลับคืนโลกจะต้องพบกับวิบัติอย่างแน่นอน เวลาผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เกิดมีกลุ่มคนออกตามล่าหาดวงตาพญานาคคู่นี้หลายกลุ่มด้วยกันคือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มนักประวัติศาสตร์
นำโดย ดร.กาญจนา อาจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์ ลูกสาวของ ดร. มานพ ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดี ได้พบว่าคุณพ่อถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็น เนื่องคนฆ่าต้องการข้อมูลที่ ดร.มานพ สืบสาวค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องเนตรนาคราช โดยได้แผนที่มาหนึ่งฉบับ
อันที่จริงกลับกลายเป็นว่าแผนที่ดังกล่าวตกอยู่กับดร.กาญจนาที่ได้คุยและร่วม ศึกษาข้อมูลกับคุณพ่อมาตลอดเวลา โดยคนร้ายหาไม่เจอ เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อ กาญจนาจึงมาชวน ดร.อัศวิน นักโบราณคดี ผู้มีชื่อเล่นว่าโบ ซึ่งเพี้ยนแผลงมาจากที่เพื่อนล้อว่า โบราณ นั่นเอง
อัศวิน เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องโบราณคดีแบบภาคสนาม กล่าวคือเขาลงพื้นที่ลุยขุดเอง ไม่ใช่เพียงแต่ค้นคว้าทางทฤษฏี เขาคนนี้เป็นเพื่อนสนิทเรียนมาด้วยกันกับเธอ ให้ช่วยตามหาเนตรนาคราช เพื่อเอาไปคืนให้แม่น้ำโขง ตามเรื่องราวโบราณที่มีมา
แต่ในขณะที่กำลังจะเดินทาง ผู้กองรัตนากร พี่สาวคนสวยของ ดร.กาญจนา ก็โผล่มาห้ามปรามไว้
ดร.วัลลภ ผู้เป็นพ่อตั้งชื่อ รัตนากร เพื่อให้ลูกคนโตเป็นหญิงสาว และจะได้เติบโตมาเป็นนักโบราณคดีเหมือนพ่อ แต่กลับกลายเป็นตำรวจหญิงไปซะงั้น
สองศรีพี่น้องคู่นี้ห่างเหินกันไปนาน เนื่องเพราะผู้เป็นพี่ไปร่ำเรียนที่อเมริกา และทำงานร่วมกับตำรวจสากล เป็นสายสืบหาผู้ก่อการร้าย และนักค้าอาวุธสงคราม รวมทั้งยาเสพติดภาคพื้นเอเซีย
จู่ๆ พี่สาวที่เหินห่างมาปรากฏตัวเพื่อที่จะห้ามปราม มีหรือดร.กาญจนา จะฟัง ลึกๆ ในใจ กาญจนาคิดเสมอว่าถูกพี่สาวทอดทิ้ง
เมื่อห้ามไม่ฟังทำให้ รัตนากร ต้องตามขบวนเดินทางมาด้วย เพราะเป็นห่วงน้องสาว แต่ที่น่าหนักใจคือแฟนของ กาญจนา ชื่อ วรชัย หนุ่มไฮโซ ผู้ซึ่งจบจากนอก มีงานอดิเรกชอบยิงปืนเข้าป่าล่าสัตว์ขอติดตามมา ด้วยโดยยกเอาความเป็นแฟนกับกาญจนามาอ้าง รัตนากรค้านว่าไม่ควรให้ไป กาญจนาโมโหจึงให้วรชัยมาด้วยเพราะต้องการเอาชนะพี่สาว
กล่มที่ 2 กลุ่มเฮนรี่ เจมส์
เนตรนาคราชเป็นสมบัติอันมีค่า ที่กลุ่มเศรษฐีอเมริกา นำโดย เฮนรี่ เจมส์ ซึ่งอยากมีชีวิตอมตะ คิดจะเอามาครอบครองเพราะ คุณสมบัติของเนตรนาคราชเมื่อมาพบกันสองดวงจะกลายเป็นรังสีเย็น ที่ทำให้คนเป็นอมตะไม่มีวันตาย เฮนรี่จึงทุ่มเงินส่งลูกน้อง เข้ามาติดต่อกับคู่ธุรกิจในไทย คือนายสุกิจ จัดเตรียมอาวุธและกำลังให้เพื่อตาม ดร. กาญจนา ชิงเอาแผนที่ และตามไปชิงเอาเอาเนตรนาคราชมาให้ได้
กลุ่มที่ 3 กลุ่มมาเฟียเอเซีย
กลุ่มคนจีนจากแผ่นดินใหญ่ ชื่อ เจิ้งซา ผู้สืบสกุลจีนเก่าแก่ ก็ต้องการเนตรนาคราช เช่นเดียวกัน เจิ้งซาเป็นตระกูลขุนนางกังฉิน มีสมุนและเครือข่ายมากมาย พร้อมที่จะมาแย่งชิงเอาเนตรนาคราชเอาไว้เป็นสมบัติของตระกูล และเพื่อความเป็นอมตะ เจิ้งซามีลูกสาวสวย ชื่อ หลิน จิตใจนักเลง ถูกบ่มสอนมาจากพ่อ หลินต้องการพิสูจน์ฝีมือ เพื่อให้เห็นว่าตนสามารถรับสืบทอดกิจการของพ่อได้จึง อาสา เจิ้งซารับภารกิจครั้งนี้พร้อมสองพี่น้องนักฆ่าสาว ที่มาเป็นผู้คุ้มกันอย่างใกล้ชิด
กลุ่มที่ 4 กลุ่มพิทักษ์เนตรนาคราช
เป็นคนไทยที่รวมตัวกันตั้งแต่โบราณกาล ออกตามหาเพื่อเอาเนตรนาคราชมาคืนให้แม่น้ำโขง นำโดย อิฐ พรานหนุ่มผู้เก่งกล้ามากฝีมือ อดีตเขาเคยเป็นตำรวจตระเวนชายแดน และเป็นลูกหลานของกลุ่มพิทักษ์เนตรนาคราช จึงร่วมเดินทางไปด้วย เพราะรู้จุดประสงค์ของ ดร.กาญจนา ว่าจะนำเอา เนตรนาคราชไปคืนแม่น้ำโขงเช่นกัน อิฐมาในหน้าที่พรานจึงได้รับการต้อนรับจากคณะเดินทางโดยไม่ติดใจสงสัย อิฐได้ชวน ศักดิ์ชาย เพื่อนสนิท อดีตตำรวจตระเวนชายแดน มาร่วมงานนี้ด้วย ศักดิ์ชาย แม้จะเป็นคนกรุงเทพฯ แต่กลับชอบชีวิตเรียบง่ายในต่างจังหวัด นอกจากนี้อิฐยังมีลูกน้องคนสนิท อีก 2 คนตามมา เพื่อช่วยคุ้มกันคณะเดินทาง
กลุ่มที่ 5 กลุ่มลูกหลานของพี่น้องจอมขมังเวทย์
เป็นลูกหลานของจอมอาคมสองคน ที่ไปขโมยเอาดวงตาพญานาคเมื่อ 500 ปี ก่อน เพื่อนำกลับ ไปคืนเช่นกัน เพราะหลังการครอบครองเนตรนาคราช นอกจากทำให้พี่น้องสองคนตาบอดแล้ว ก็ยังทำ ครอบครัวตระกูลมีอันเป็นไป ต้องได้รับทุกทรมาน เพราะลูกหลานที่เกิดมาล้วนสายตาพิการหนึ่งข้าง นำโดย ทายาทรุ่นหลังสุด คือ “เคน” ชายหนุ่มที่ต้องใส่ที่ปิดตาหนึ่งข้าง เขาเป็นมาเฟีย คุมพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำอยู่
เคนได้รับรายงานเรื่องคณะต่างๆ ที่เดินทางเข้ามาค้นหาเนตรนาคราช จึงรวบรวมผู้คนพร้อมชิงเนตรนาคราชให้ได้ แต่กลับโลภ คิดจะขายเอาเงิน มากกว่าที่นำไปคืน ตามความต้องการของบรรพบุรุษของตน
ทุกกลุ่มเดินทางเข้ามาในป่าดงดิบเพื่อหาที่ซ่อนเนตรนาคราช และได้พาตัวเองเข้าสู่ เหตุการณ์อันลี้ลับ เรื่องราวลึกลับเหลือเชื่อ มากมาย ทั้งจากผู้คนชาวไพร โจรป่า และฝูงสัตว์ประหลาด ชนิดที่ไม่มีวันลืม
1. ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ แสดงเป็น อัศวิน
2. จีรนันทน์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น รัตนากร
3. ชนะพล สัตยา แสดงเป็น ชาติ
4. ธันญ์ ธนากร แสดงเป็น อิทธิ
5. กวิตา รอดเกิด แสดงเป็น ดร.กาญจนา
6. ภคมน สถิรบุตร แสดงเป็น โรส
7. ศรศิลป์ มณีวรรณ์ แสดงเป็น นายอง
8. กรเศก โคร์นิน แสดงเป็น วีรกิจ
9. โอริเวอร์ บีเวอร์ แสดงเป็น เฮนรี่
10. สุรวุฑ ไหมกัน แสดงเป็น ชัย
11. วินัย ไกรบุตร แสดงเป็น เคน
12. นพพล พิทักษ์โล่พานิช แสดงเป็น หมอนพดล
13. พิเชษฐ์ ศรีราชา แสดงเป็น พรานโก๊ะ
14. กรกฏ ธนภัทร แสดงเป็น จินหัว
15. กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ แสดงเป็น หลิน
16. จรัล น้อยลำ แสดงเป็น โจซิง
17. ฤทธิ์ ลือชา แสดงเป็น พรานอองข่าน
18. อมต อินทานนท์ แสดงเป็น พรานเม้ง
19. วินัย เวียงย่างกุ้ง แสดงเป็น ปิง
20. วิรัช เข็มกลัด แสดงเป็น หยก
21. ชาลี เลิศโภคานนท์ แสดงเป็น เวจาง
22. ธนวิช วงศ์สุวรรณ แสดงเป็น ซามู
23. ธันย์ณภัทร ศิริมาตย์ แสดงเป็น อังโซะ
ขอบคุณที่มาจาก ผู้จัดการออนไลน์