แพทย์ญี่ปุ่นชมแพทย์ไทย ! หลังรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด หายดีสูงถึง 87% ซึ่งนับเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว เรียกได้ว่าดังระเบิดสุดๆไปเลย จนวงการแพทย์ญี่ปุ่นถึงกับอึ้ง!!

แพทย์ญี่ปุ่นชมแพทย์ไทย
ภาพจาก thethaiger.com

แพทย์ญี่ปุ่นชมแพทย์ไทย ! หลังรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด หายดีสูงถึง 87%

นายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวญี่ปุ่นผ่านทางโทรศัพท์ว่า

“การรักษาของไทย ใช้วิธีรีบให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสในลำดับแรกอย่างรวดเร็ว ซึ่งวิธีการรักษาพยาบาลแบบนี้ กรมการแพทย์ของไทยคิดค้นวิจัยขึ้นได้เอง พวกเรามีความมั่นใจว่ามันต้องได้ผลอย่างแน่นอน”

จนถึงปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 2,931 ราย และ 2,609 ราย มีอาการดีขึ้นมากอย่างน่าพอใจ นายแพทย์สมศักดิ์บอกอีกว่า

“พวกเรารักษาผู้ป่วยไปตามอาการ โดยการใช้ยาต้านไวรัส 7 ชนิดด้วยกัน ตัวยา 6 ชนิดเราสามารถพัฒนาขึ้นได้เอง ส่วนยาอีกตัวคือ Avigan นั้นเราได้รับความร่วมมือนำเข้ามาจากญี่ปุ่นและจีน จนมีจำนวนที่มากพอใช้สำหรับผู้ป่วยทุกคนในประเทศ”

แพทย์ญี่ปุ่นชมแพทย์ไทย

“เราจะแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่มตามอาการของพวกเขา
ผู้ป่วยกลุ่มแรก ที่ไม่มีอาการ เราจะไม่ใช้ยาต้านไวรัส กลุ่มที่สองมีอาการเบา เราใช้ยาตัวอื่นที่ไม่ใช่ Avigan กลุ่มที่สาม ผู้ป่วยที่มีอาการหนักเราจะใช้ยา Avigan เราได้รับรายงานจากแพทย์ทั่วประเทศไทยถึงผลลัพธ์ที่ดีมากจากการให้ยาต้านเชื้อไวรัสกับผู้ป่วยอย่างรวดเร็วในขั้นตอนแรก”

“กรมการแพทย์ของเรา ได้ทำการศึกษาวิจัยการแพร่ระบาดร่วมกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงใช้ประสบการณ์ที่เรามีอยู่ พวกเราทุ่มเทศึกษาเรียนรู้วิธีการรักษาพยาบาลจากต่างประเทศอื่นๆ อีกด้วย กรมการแพทย์ได้ให้นโยบายโรงพยาบาลทั่วประเทศ ใช้วิธีการรักษาพยาบาลแบบดังกล่าวนี้ นั่นคือการให้ยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็วทันทีในขั้นตอนแรก เราจะไม่ทำการทดลองเป็นกรณีพิเศษก่อน แต่จะลงมือรักษาพยาบาลตามแบบฉบับของเราในทันที คือการให้ยาต้านเชื้อไวรัสในทันที เพราะความตายจะไม่รอเราหรอก”

จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสในประเทศไทย เพิ่มขึ้นเกินวันละ 100 รายติดต่อกันหลายวันในช่วงต้นเดือนมีนาคม ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน แต่ถึงหลังจากวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อกลับลดลงและหยุดอยู่แค่เพียงวันละต่ำกว่า 20 รายเท่านั้น ถือว่าน่าพอใจ

……………………………………………………

การแพร่ระบาดในระลอกที่สอง ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ พวกเราต้องเฝ้าระวังกันต่อไป ถ้าคนไทยเราเคารพกฎระเบียบการเว้นระยะการสัมผัสใกล้ชิดกันของผู้คนในสังคมลงให้ได้ เราก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดให้มันน้อยลงได้

 

 

เรียบเรียงเนื้อหาโดย Dodeden.com

สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่

โดดเด่น
ศัลยกรรม
webdodeden

 

 

เรื่องน่าสนใจ