รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 นำเสนอความคืบหน้า ว่า หลังเกิดกระแสโจมตีแม่อุ้มบุญคนไทยในโลกออนไลน์ ว่าเหตุที่ไม่ยอมคืนน้องคาร์เมน เพราะอยากได้เด็กลูกครึ่ง ไม่คิดคืนตั้งแต่แรก โดยน.ส.ออย (นามสมมติ) แม่อุ้มบุญชาวไทย ชี้แจงว่า ข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊กที่ว่า ตนอยากได้บุตรเป็นลูกครึ่งนั้น เป็นการโพสต์ข้อความเล่นๆ เท่านั้น ถ้าตนต้องการน้องคาร์เมนตั้งแต่แรก ตนก็คงแอบไปคลอดเอง และแจ้งชื่อแฟนของตนเป็นพ่อของน้องคาร์เมนไปแล้ว
นอกจากนี้ น.ส.ออย ยังบอกว่า ไม่ขอตอบโต้ เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรก็ถูกโจมตีไปหมด คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย ตนไม่ได้กล่าวหาคู่ชายรักเกย์ว่าเป็นพวกค้ามนุษย์ แต่อยากให้มีการพิสูจน์ในชั้นศาล
นอกจากนี้ น.ส.ออย ยังได้ฝากไปถึงเอเจนซี่ที่ชื่อน้อยหน่า ว่า ทำไมจึงเงียบหายไปเลย ไม่มีการออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องที่ตนสมัครรับเป็นแม่อุ้มบุญนั้น ก็เป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ มารู้ทีหลังรับอุ้มบุญว่าผิดกฎหมาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท เปิดเผยหลังรับแจ้งความเรื่องดังกล่าวว่า ตามที่สอบถามไปยังโรงพยาบาลซึ่งรับทำคลอดน้องคาร์เมน ทราบว่า แม่อุ้มบุญรายนี้ ถูกส่งตัวมาจากคลินิกแห่งหนึ่งในย่านเพลินจิต และแพทย์ที่เป็นผู้ทำคลอดก็เป็นคนละคนกับแพทย์ที่ทำอุ้มบุญ
ทั้งนี้ตรวจพบว่า แพทย์ที่ทำอุ้มบุญให้กับคู่ชายรักชายจากสหรัฐฯ เป็นคนเดียวกับแพทย์ที่ทำอุ้มบุญให้ นายชิเกตะ มิตซูโตกิ พ่อชาวญี่ปุ่น และหากแม่อุ้มบุญรายนี้ ต้องการฟ้องร้องแพทย์ก็สามารถทำได้ เพราะถือว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
ส่วนข้อหาที่แม่อุ้มบุญรายนี้เข้ามาแจ้งความไว้ที่ สน.พญาไท คือ ข้อหาพรากผู้เยาว์ แต่เมื่อพิจารณาหลักฐานเรื่องการส่งมอบน้องคาร์เมนให้กับคู่เกย์ดังกล่าวที่โรงพยาบาลหลังคลอดด้วยตนเอง ก็ไม่เข้าข่ายพรากผู้เยาว์แต่อย่างใด