ทำเอานักแสดงสาวและซิงเกิลมัม แอนนี่ บรู๊ค ถึงกับยิ้มไม่ออก เพราะตอนนี้เจ้าตัวเจอมรสุมหนัก ต้องดูแลลูกชาย น้องฑีฆายุ และคุณแม่ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพียงลำพัง ซึ่งตั้งแต่คุณแม่ล้มป่วยทำให้ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดสาวแอนนี่ บรู๊ค และน้องฑีฆายุ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
โดยแอนนี่ บรู๊ค เผยว่า “ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว แอนทราบว่าลูกมีภาวะสมาธิสั้น เราก็เลยไปปรึกษาคุณหมอ เขาบอกว่าเป็นอาการเริ่มต้น ถ้าคุณแม่ดูตั้งแต่วันนี้น้องก็ไม่ต้องกินยา ซึ่งตอนนี้เขาก็ดีขึ้นมาก ๆ เมื่อก่อนนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้เลย”
น้องฑีฆายุ พูดเสริมว่า “คุณแม่ใช้ความรัก และเล่นกับผม ทำให้ผมดีขึ้น และตอนนี้ก็อยู่นิ่ง ๆ ได้แล้ว ตอนที่แม่ทำงานต่างประเทศผมก็ไม่อยากให้แม่ไป ตอนแม่ไปทำงานผมก็เศร้านิดหน่อย เพราะว่าผมคิดถึงแม่มาก ๆ เพราะว่าผมต้องอยู่กับลุงและป้า แต่ตอนนี้ผมก็ได้อยู่กับแม่แล้ว เวลาแม่ร้องไห้ผมทำให้แม่ไม่ร้องไห้ ผมได้บุญเยอะมาก ๆ ผมก็บอกว่าแม่สู้ ๆ นะครับ ผมรักแม่นะครับ”
เรื่องคุณแม่ป่วย สาวแอนนี่ บรู๊ค บอกว่า “เมื่อเดือนที่แล้ว คุณแม่ล้มในห้องน้ำ แล้วแกเป็นเบาหวาน โรคกระดูกพรุนด้วย พอล้มปุ๊บแกไม่ได้บอกเรา นอนแช่อึ แช่ฉี่ ลุกไม่ได้อยู่บ้านที่ลำปาง แล้วไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย ประมาณ 2 วันถึงมีคนไปเจอ ซึ่งแม่โทรศัพท์มาหาบอกว่ากลับมาหาแม่หน่อย พอเราไปเจอแม่ก็อยู่ในสภาพที่มีแผลกดทับแล้ว ตอนนี้ก็เลยพาแม่มาอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน พาแกไปหาหมอ แต่ใจแกไม่สู้ ลุกขึ้นนั่งได้แต่แกก็ไม่ลุก ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน”
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นสาวแอนนี่บอกว่า “ช่วงปีที่ผ่านมา พอรู้ว่าลูกสมาธิสั้น แอนก็หยุดบินไปทำงานต่างประเทศใช้เงินเก็บมาตลอด แล้วไหนจะค่าเทอม เสื้อผ้า หนังสือ พาเขาไปเที่ยวห้างบ้าง จนมาถึงต้นปีที่คุณแม่ป่วยมันก็แทบจะไม่มีเงินแล้ว ซึ่งตอนที่คุณยายยังไม่ป่วย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน อันนี้คือประหยัดที่สุดแล้ว แล้วเราไม่เคยขอรับบริจาคและไม่เคยยืมเงินใคร คือพอเอาคุณแม่มาเรามีเงินแค่พอกินข้าว จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ไม่มีเงินพอที่จะซื้ออุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่จะดูแลคุณแม่ มันก็ถึงเวลาแล้วที่เราต้องขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็ต้องขอความช่วยเหลือบ้าง
แอนก็เลยคุยกับพี่ ๆ ตลกว่าหนูไม่ไหว หนูอยากได้เตียงให้คุณแม่ ท่านเป็นแผลกดทับ แล้วเป็นเบาหวาน ถ้ามันติดเชื้อในกระแสเลือดคือวันเดียวไปเลย ก็เลยบอกว่ามีใครพอจะสนับสนุนตรงนี้ได้บ้าง ทางพวกพี่ ๆ เขาเลยจัดมาให้ ก็ดีใจมากได้เอาเตียงให้ยายนอน ถามว่าตอนนี้เงินพอใช้ไหม ไม่พอเราก็พยายามขายของออนไลน์ อัปเดตสินค้าใหม่ ๆ เรื่อย ๆ แล้วคุยกับเพื่อน ๆ ว่าใครมีอะไรให้ทำบ้าง คือแอนไม่ขอยืมเงินใคร ไม่เบียดเบียนใคร แต่ใครมีอะไรให้แอนทำแลกเงินบ้าง คือขอแค่นี้เอง แอนไม่อยากร้องไห้ออกสื่อ ไม่อยากให้ใครมาสงสาร พอถามว่าเหนื่อยไหม มันก็ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ส่วนเรื่องแพลนอนาคตยังนึกอะไรไม่ออก ก็ขายของออนไลน์อยู่ อยากให้ทุกคนเปิดใจ เรามีสินค้าหลากหลายให้เลือก เพราะเราคนไทยขี้เบื่อ”
เรื่องคุณพ่อ คุณแม่บุญธรรม ของน้องฑีฆายุ นั้น สาวแอนนี่ บอกว่า “วันที่เป็นข่าวมีคนเสนอตัวจะส่งเสียน้องฑีฆายุเรียนจนจบปริญญาตรี แต่พอถึงแค่อนุบาลหนึ่ง เทอมแรกค่าเทอมก็ไม่ได้แพง เขาก็บอกว่ามันแพงไป เขาใช้คำพูดเหมือนเราไปขอเงินเขา ซึ่งจริง ๆ เราไม่ได้เป็นคนขอความช่วยเหลือ เขาเป็นคนออกตัว ออกสื่อเอง เขาใช้คำพูดที่มันเหยียบใจเรา เราก็เลยบอกว่างั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวหนูดูแลลูกเอง เรื่องดราม่าที่ให้ลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์ เพราะค่าใช้จ่ายสูงนั้น ตอนแอนทำงานต่างประเทศแอนจ่ายได้ แล้วแอนคิดว่าต่อไปนี้แอนก็จะต้องทำงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่ไหว ซึ่งเราเป็นคนขยันยังไงเราก็จ่ายได้ บางคนบอกว่าไม่มีตังค์จะให้เรียนทำไม อนาคตของลูกใคร ๆ ก็อยากให้ดีกว่าพ่อกว่าแม่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ให้ลูกย้ายโรงเรียนมาเรียนโรงเรียนใกล้ ๆ บ้าน เป็นโรงเรียนสองภาษาธรรมดา”
เรื่องหัวใจถามว่ามีใครมายื่นข้อเสนออะไรให้ไหม แอน ตอบว่า “มีนะคะ แต่ว่าถ้าเขามาไม่ได้เพราะรัก หรือว่าอยากจะช่วยเหลือจริง ๆ ตั้งใจผ่านมาก็ผ่านไป เอาเงินให้อย่างนี้ เราไม่อยากลดคุณค่าตัวเองในเวลาที่เรามีวิกฤต อย่าลดคุณค่าตัวเองเพราะสถานการณ์บีบบังคับมันไม่จำเป็น ยืนด้วยตัวเองมันจะยืนได้นาน แต่ถ้าเกิดยืนได้เพราะมีคนอื่นเข้ามาช่วย เราไม่ได้อายุน้อย ๆ แล้ว เดี๋ยวเขาไปเจอคนสวยกว่าเขาก็ไป”
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama