โรคมะเร็งตับ ภัยร้ายที่พบได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของผู้ชายและผู้หญิง อย่าปล่อยให้มะเร็งตัวร้ายทำลายสุขภาพก่อนสายจนเกินเยียวยา ด้วยการเช็กสัญญาณเบื้องต้นของโรคมะเร็งตับ ถ้าหากคุณมีอาการตามนี้หลายข้อ รีบพบแพทย์ด่วนเลย !
โรคมะเร็งชนิดนี้ มีอาการลุกลามค่อนข้างรวดเร็ว และมีโอกาสหายขาดน้อยมาก กว่าที่จะรู้ว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งตับ ก็แทบจะอยู่ในระยะที่รุนแรงมากแล้ว แต่ใช่ว่าโรคนี้จะไม่สามารถรับมือได้ เพราะถ้าหากเรารู้สัญญาณเตือน ก็จะช่วยให้เราได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และเพิ่มอัตราการอยู่รอดได้
คลื่นไส้บ่อยๆ
ถือว่าเป็นสัญญาณแรกๆ ของโรคมะเร็งตับ เพราะเมื่อระบบการทำงานของตับเริ่มล้มเหลว ร่างกายก็จะไม่สามารถขจัดสารพิษในร่างกายออกไปได้ดีเท่าที่ควร ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน อีกทั้งเนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณตับ ก็จะผลิตฮอร์โมนบางชนิดที่ทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ทำให้อาการคลื่นไส้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีกด้วย
ปวดท้องด้านขวาผิดปกติ
อาการเหล่านี้ อาจเกิดจากเนื้องอกที่เป็นมะเร็งเจริญเติบโตขึ้นในช่องท้อง และทำให้เกิดความดันในช่องท้องมากขึ้น นอกจากนี้ยังอาจพบอาการตับบวมโต ที่สามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณไหล่ขวา เนื่องจากตับไปทับเส้นประสาทบริเวณกระบังลม ที่เชื่อมโยงกับระบบประสาทบริเวณไหล่ด้วย
อิ่มเร็ว เบื่ออาหาร
เพราะเมื่อตับถูกจู่โจมด้วยเซลล์มะเร็ง ประสิทธิภาพในการทำงานของตับก็จะลดลง ส่งผลให้ของเหลวไหลเข้าสู่ช่องท้อง ทำให้กินได้น้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งเซลล์มะเร็งยังไปทำให้ร่างกายเผาผลาญได้น้อยลง ความอยากอาหารก็จะลดลงตามด้วยเช่นกัน
น้ำหนักลด
เมื่อเซลล์มะเร็งเริ่มจู่โจมร่างกายจนทำให้ความอยากอาหารลดลง น้ำหนักจึงลดลงอย่างรวดเร็ว แต่การที่น้ำหนักลดก็ไม่ได้เป็นสัญญาณของโรคมะเร็งเพียงอย่างเดียว จึงควรสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย และควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยให้ชัดเจน
มีอาการคัน
มักเกิดขึ้นกับโรคมะเร็งหลายๆ ชนิด ผู้เชี่ยวชาญก็สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากสารบางชนิดที่แพร่กระจายออกมาจากเนื้องอกที่เป็นมะเร็ง แต่ในกรณีของโรคมะเร็งตับ ได้มีการคาดการณ์ว่าอาการคันน่าจะเกิดจากน้ำดีในร่างกาย ซึ่งอาการคันจะเริ่มทุเลาลง เมื่อได้รับการรักษาที่เหมาะสม
อ่อนเพลีย
เมื่อเกิดเซลล์มะเร็งขึ้นในร่างกาย เซลล์เหล่านั้นก็จะเข้าไปก่อกวนการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย หากมีอาการอ่อนเพลียในระหว่างวัน หรือไม่มีแรงแม้แต่จะทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ
ตาเหลือง ตัวเหลือง
เมื่อตับของเราอ่อนแอลงเพราะโรคมะเร็ง ตับก็จะไม่สามารถกำจัดสารบิลิรูบิน (Bilirubin) ที่ถูกกรองออกมาจากกระแสเลือดได้ดีเท่าที่ควร ทำให้สารดังกล่าวตกค้าง และกระจายไปตามเนื้อเยื่อต่างๆ จนทำให้เกิดอาการดีซ่านนั่นเอง
ตับโต
ตับที่บวมโตมากกว่าปกติ เป็นอาการที่แสดงให้เห็นในเบื้องต้นว่า อาจเกิดความผิดปกติกับตับ อย่างเช่น โรคตับอักเสบ โรคเลือดหรือโรคมะเร็งตับ ต้องวินิจฉัยร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น เนื้องอก หรืออาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลันอื่นๆ
ท้องมาน
อาการท้องมาน คืออาการที่เกิดจากความผิดปกติในหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลือง ทำให้มีของเหลวคั่งในช่องท้องเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำ ซึ่งอาการนี้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เท่านั้น โดยแพทย์จะต้องเจาะช่องท้องเพื่อระบายของเหลวออกมา
เป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี หรือ ซี
โรคไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี ล้วนสามารถเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งตับได้ จึงทำให้ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบทั้ง 2 ชนิดนี้ หรือผู้ที่เป็นพาหะ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับสูงกว่าคนปกติกว่า 200 เท่า ดังนั้น ควรตรวจเลือดอย่างน้อยปีละครั้ง และหมั่นดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ
…………………………………………………
แม้โรคมะเร็งจะเป็นโรคร้ายที่น่ากลัว แต่ถ้าหากเราหมั่นดูแลสุขภาพของตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยงต่อโรค ก็จะช่วยป้องกันเราจากโรคมะเร็งได้นะคะ
สนใจหาข้อมูลและปรึกษาศัลยกรรมได้ที่นี่
