หลังจากศาลตัดสินไม่คุ้มครองช่อง 3 อนาล็อก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในบางส่วนของช่อง 3 ในเรื่องนี้ “ประวิทย์ มาลีนนท์” บิ๊กบอสช่อง 3 เผยในงานแถลงข่าว “ช่อง3 และ CTH ถ่ายทอดฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2014″ ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ ว่า“ศาลไม่คุ้มครองเท่านั้นเอง เพราะเนื่องจากว่า กสทช. ก็มีการขยายเวลาให้เราไป 100 วัน ตั้งแต่เดือน พ.ค. และจะสิ้นสุดในวันที่ 1 ก.ย. ไม่ได้หมายความว่าเราแพ้คดี เนื้อหาของคดียังไม่ได้มีการพิจารณาเลย เพราะยังไม่มีการตัดสินใจว่าใครถูก ใครผิด เพียงแต่บอกว่าไม่ต้องคุ้มครอง ซึ่งการที่ศาลไม่คุ้มครอง ก็ยังไม่มีผลกระทบอะไร ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ส่วน กสทช.อยากให้ออกสัญญาณคู่ขนานนั้น นายประวิทย์ กล่าวว่า ถ้าออกคู่ขนาน ใครจะเสียค่าใช้จ่าย เพราะทางช่อง 3 มีความคิดว่า แบรนด์ตรงนี้เรามีความแข็งแรงอยู่แล้ว เลยมีบริษัทไปประมูลดิจิทัลอีก 3 ช่องมา เพื่อพัฒนาธุรกิจ และคิดว่าถ้าช่อง 3 อนาล็อคหมดสัญญา เราถึงจะย้ายเป็นระบบดิจิทัล แต่ในช่วงนี้ต่างคนต่างพัฒนาไปก่อน เพราะปัญหาอีกอย่างหนึ่งของทีวีดิจิทัล 24 ช่อง คือ ตอนประมูล ไม่มีใครเตรียมคนไว้ทำงาน มีแต่เงินและความอยากทำ คิดว่าในอนาคตทีวีดิจิทัล คงแจ้งเกิดเป็นแค่รายการ ไม่เกิดกันเป็นช่องๆ หรอก” ประวิทย์กล่าว
นักข่าวถามต่อถึงในช่วงที่ผ่านมา นักแสดงช่อง 3 ค่อนข้างมีกระแสข่าวมากพอสมควร รวมถึงกรณีนางเอกสาวชื่อดัง อย่าง “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ในช่วงที่ผ่านมา อาจมีกรณีขัดแย้ง ซึ่งเรื่องราวดูจะลุกลามบานปลาย ได้มีการเรียกเข้าไปพูดคุยหรือไม่ ผู้บริหารชื่อดังกล่าวว่า มีเรียกไปห้ามปราม แต่คนทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา
“คนเยอะขึ้นปัญหาก็มากขึ้น และไม่มีใครประสงค์ อยากให้เป็นข่าวหรอก แต่เดี๋ยวนี้โซเชียล เหมือนเป็นตัวร้ายเลย เพราะปิดบังอะไรไม่ได้ อีกส่วนหนึ่งคือบางคนก็เป็นคนเอาข่าวมาออกเองเสียอีก เลยไปกันใหญ่ ถามว่าต้องมีการพูดคุยมั้ย มีคนปรามๆ อยู่ เพราะข่าวเสียหายเราคงไม่อยากให้เกิด
เรามีการตั้งเป้าไว้ในอนาคตว่า อยากเป็นช่องที่สะอาด แต่ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรได้ภายในชั่วข้ามคืน กรณีพลอย เราห้ามปรามได้ แต่การกระทำเป็นสิทธิ์ของเขา มีการเรียกว่าไปพูดคุยซึ่งคนที่รับผิดชอบคือสมรักษ์ ณรงค์วิชัย เพราะใครๆ ก็ทะเลาะกันได้” ประวิทย์กล่าว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวโดย : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก