ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณคลังสินค้า ท่าอากาศยานดอนเมือง สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จัดกิจกรรม “กรุงเทพฯ หยุดวัณโรค” เนื่องในสัปดาห์รณรงค์วัณโรคสากล เพื่อให้ประชาชน และผู้ขับรถแท็กซี่ตระหนักเรื่องวัณโรค ให้ความรู้ในการป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่ถูกต้อง
นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ สำนักงานอนามัย กทม. เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงป่วยเป็นวัณโรค เพราะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนรถ เป็นสถานที่ปิด และพบเจอผู้โดยสารมากมาย ทำให้การกระจายของโรคมีมากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ กลุ่มผู้ขับแท็กซี่ ยังเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยตรวจสุขภาพ ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ ควรได้รับการตรวจสุขภาพ และเอ็กซเรย์ปอดปีละ 1 ครั้ง พร้อมกับระบุว่า วัณโรคนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากทานยาต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ กทม.จะเดินสายตรวจ และคัดกรองผู้ป่วย ทั้งที่สถานีขนส่งหมอชิต ตลาดมีนบุรี สถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ พร้อมขอให้ประชาชนสังเกตอาการตัวเอง หากไอต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ หรือเป็นไข้ น้ำหนักลด ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง
ขณะที่สถิติผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทย จากสำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศของโลกที่มีทั้งปัญหาวัณโรคสูง มีปัญหาวัณโรคในผู้ติดเชื้อเอชไอวี และปัญหาวัณโรคดื้อยาหลายขนาน โดยในแต่ละปีมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ประมาณ 120,000 ราย และในจำนวนนี้มีปัญหาวัณโรคดื้อยาหลายขนานประมาณ 2,200 ราย โดยผู้ป่วยที่เข้าถึงการบริการ 70,000 ราย ส่วนอีกประมาณ 50,000 ราย ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการ ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ด้อยโอกาส และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจ็บป่วยด้วยวัณโรค