ที่มา: dodeden

ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอมรายงานว่า นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวเครือเนชั่น ได้โพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊ค Kanok Ratwongsakul ว่า วันนี้อ่านข่าว เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ติติงผู้ที่ไม่ได้มาต่อแถวรอถวายสักการะพระบรมศพเหมือนประชาชน ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานรัฐ หรือองค์กรต่างๆ ที่มีตั้งแต่การทำหนังสือขอมาเป็นพิเศษ หรือหน่วยงานที่สลับหมุนเวียนกันมา ขอเข้าสักการะเป็นกรณีพิเศษ ผ่านช่องทางต่างๆ

14915725_1257839860933145_7781689560043838354_n

ทั้งนี้ ที่พบมากคือ มักจะเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมจากที่ขอมา 10 คน แต่ถึงเวลามาจริง มากันหลายสิบคน พอเข้ามานั่งในเต๊นท์พักคอยภายในกำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พอเสร็จช่วงพิธี คนกลุ่มนี้จะได้ขึ้นถวายสักการะพระบรมศพเลย เท่ากับคนกลุ่มนี้ได้ “แซงคิว” คนที่ต่อแถวอยู่ภายนอกนานหลายชั่วโมง

หลายคนยังนำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพโดยไม่ให้เกียรติสถานที่ ขณะที่ชาวบ้านที่ต่อแถวมานานหลายชั่วโมง ยังไม่กล้าทำ ทุกครั้งที่กลุ่มพิเศษนี้แซงคิว จะยิ่งทำให้ประชาชนภายนอกเกิดภาวะอั้น แถวไม่ขยับ

เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง จึงอยากฝากไว้ว่า ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้สิทธิพิเศษมาเข้าถวายสักการะ หรือถ้าใช้สิทธิ์ก็ไม่ควรแห่กันมามากเกินไป เพราะแม้แต่ญาติพี่น้องของข้าราชการในสำนักพระราชวังที่ทำงานถวาย ยังต้องต่อคิวเหมือนประชาชนทั่วไป “ขอให้เห็นใจประชาชนที่ต่อแถวหลายๆ ชั่วโมงด้วย”

14731100_1241719532545178_4982448531165006349_n

อ่านข่าวนี้แล้วคุณรู้สึกอย่างไร ?

คนที่จะเข้าไปกราบในหลวง คุณยังคิดเอาเปรียบคนไทยด้วยกัน บางคนได้เข้าไปด้วยช่องทางพิเศษลัดคิวคนอื่นแล้ว ยังมีหน้ามาคุยโม้ประมาณว่า “เข้าไปกราบมาแล้ว สบายเลย ไปกับ..( ชื่อหน่วยงาน )..” คุณไม่รู้สึกละอายใจเลยหรือครับ?

ผมอยากให้ทุกกรม กองราชการ สั่งข้าราชการทุกคนในสังกัด ให้มาเดินดูที่ท้องสนามหลวง มาดูแถวประชาชนที่มากันตั้งแต่ ตี 3 ตี 4 ตี 5 หลายคนอายุมากกว่า 60 – 70 ปี หลายคนจูงเด็กอายุไม่กี่ขวบ เข้าใจว่า คุณแม่อยากให้ลูกได้กราบพระองค์ท่าน

ผมเชื่อว่าเมื่อคุณได้มาเห็น มาสัมผัสบรรยากาศความจงรักภักดี ด้วยสำนึกของพสกนิกรที่ไม่เบียดเบียนกัน คุณจะละอายใจ ไม่คิดเอาเปรียบคนเหล่านี้ โดยเฉพาะหน่วยงานใดก็ตาม ที่ไม่เคยมาเป็นจิตอาสาที่สนามหลวง ควรจะมาด้วยความสมัครใจ

ผมเคยถามข้าราชการกระทรวงกลาโหม ที่อยู่ในเต๊นท์แจกอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อ และผ้าเย็น ว่าได้เข้าไปกราบพระองค์ท่านหรือยัง “น้องตอบว่า ยังไม่เคยเข้าไปเลย ต้องคอยหมุนเวียนมาทำหน้าที่ตรงนี้ก่อน” ผมสะอึกและนึกชมเชยเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่มาอยู่หน้ากำแพงวังเป็นเดือนแล้ว เขายังไม่ได้เข้าไปกราบสักครั้ง และผมเชื่อด้วยว่า ถ้าเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้เข้า พวกเขาก็จะไปต่อแถวเหมือนคนอื่น

ตัวแทนประชาชนที่มาในโควต้าของกระทรวงมหาดไทยก็เช่นกัน คนกลุ่มนี้ จะมาตั้งอีกแถว แล้วได้เข้าไปไวกว่าแถวของประชาชน ผมเห็นผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์และถ่ายทอดสดมาบางจังหวัด บอกตรงๆว่า “ผมไม่เชื่อว่าเป็นตัวแทนประชาชน” ดูจากบุคลิกลักษณะ ผมเผ้า เครื่องแต่งกายแล้ว เป็นตัวแทนประชาชนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

คุณคิดถึงสมเด็จแต่ละพระองค์ ที่เป็นพระราชโอรส พระราชธิดา เวลาที่ท่านเป็นประธานในพระราชพิธีสวดพระอภิธรรม ท่านยังเกรงใจประชาชนจะคอยนาน ยังมีพระเมตตาให้ประชาชนเข้าไปกราบพระบรมศพ ขณะที่แต่ละพระองค์ยังประทับอยู่ แล้วทำไมข้าราชการกลุ่มนี้ ถึงไม่เกรงใจประชาชน

วันที่ผมไปกราบสักการะ ช่วงที่นั่งคอยในเต๊นท์หน้าพระที่นั่ง หลังจากยืนแถวมา 6 ชั่วโมง จนมาจ่อใกล้จะได้เข้าไป ช่วงนั้นพอดีเสร็จพิธีสวดตอนค่ำ หลังจากสมเด็จพระเทพฯเสด็จกลับ เรายังไม่ได้เข้า เรายังต้องรอ ข้าราชการในชุดปกติขาว ทยอยออกมาจากพระที่นั่งฯ นานเอาเรื่อง ผมยังคิดตอนนั้นเลยว่า พระที่นั่งดุสิตฯสถานที่ก็คับแคบ แต่ทำไมจุข้าราชการพวกนี้เยอะเหลือเกิน

13438969_1268216359895495_9031027374769059723_n

หยุดเถิดนะครับ หยุดเอาเปรียบกัน แม้สิทธิพิเศษนั้นคุณพึงได้จากหน่วยงาน คุณลองเข้าไปกราบในหลวง ด้วยวิธีเดียวกันกับชาวบ้าน ไม่ว่าจะยืนอยู่ในแถวนานเพียงใด ต้องตากแดดเป็นระยะๆ ต้องเมื่อยล้า ต้องอดทนอั้นปัสสาวะ อดทนทุกสิ่งอย่าง…ลองเอาใจเราไปใส่ใจเขา หรือคิดว่า ขณะที่คุณใช้ช่องทางพิเศษเข้าไปนั้น พ่อแม่คุณกำลังยืนขาแข็ง ใกล้จะเป็นลมอยู่ภายนอก คุณทำได้ลงคอหรือ ?

ผมเชื่อว่า มีหลายคนในแถวคิดถึง “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” พระองค์ทรงผ่านทุกสภาวะที่ประชาชนเจอในแถวมาแล้ว ๗๐ ปี “เพื่อเรา” ท่านยังผ่านมาได้ ถ้าเราคิดเช่นนี้ หรือคิดว่าพระองค์ทรงทอดพระเนตรอยู่..เราจะยังอยู่ในแถวได้ จนเข้าไปกราบท่านเป็นครั้งสุดท้าย แล้วทุกคนก็จะมีความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต เมื่อเดินออกมา ความภาคภูมิใจนี้จะไม่เกิดกับคนที่เอาเปรียบกัน โดยเฉพาะถ้าคนนั้นเป็น “ข้าราชการ”

สุดท้าย ผมขอแสดงความนับถือ ยกย่อง เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนของพระองค์อย่างดี ประตูวังเปิดตี 5 แสดงว่าพวกท่านต้องมาก่อนตี 5 ประชาชนคนสุดท้ายกราบเสร็จ 4 – 5 ทุ่ม แสดงว่าท่านได้กลับบ้านดึกกว่านั้น ภาพที่ท่านประคองคนเฒ่าคนแก่ คอยชี้แนะแต่ละจุดด้วยน้ำเสียงที่สมกับเป็นข้าราชการในพระองค์ ผมจดจำและนำไปบอกต่อเสมอครับ

รบกวนแชร์บทความนี้ต่อๆไปด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

14900411_1257839724266492_616377765228837963_n

ทั้งนี้ ได้มีผู้อ่าน ได้แชร์จำนวนมาก บางท่านก็แสดงความคิดเห็นว่า “หนูมาจากเมืองนอก นั่งเครื่อง 13 ชั่วโมง เจอเลทเปลี่ยนเวลา เจออากาศร้อนๆ วันรุ่งขึ้นตื่นตั้งแต่ตีหนึ่ง ตีสองไปเข้าแถว ได้คิวตีห้าครึ่ง พาแม่กับพ่อไปด้วยกัน แม่ป่วยเป็นไตวาย พ่อรับราชการเป็นตำรวจยศร้อยเอก หนูยังไม่เคยไปขออภิสิทธิ์ลัดคิวจากใครเลย”  

“รอมา13 ชั่วโมง ถึงกับผงัก เห็นกับตาว่ามีผู้ได้รับอภิสิทธ์ เป็นนักแสดงก็มีนะ”

เรื่องน่าสนใจ