จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่าถูกพนักงานร้านนวดแห่งหนึ่งกระทำอนาจาร เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561 ที่ผ่านมานั้น ทางด้าน กรม สบส ไม่อยู่เฉย เตรียมดำเนินการเข้าตรวจสอบแล้ว

 

กรม สบส ไม่อยู่เฉย

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร

 

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกกรม สบส. ได้มอบหมายให้นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยนายแพทย์ภัทรพล กล่าวว่าทางกองสถานประกอบการฯ  ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง  และตรวจสอบว่าร้านนวด ดังกล่าวมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพหรือไม่ รวมทั้งผู้ให้บริการ มีการขึ้นทะเบียนกับกรมสบส.หรือไม่ โดยหากตรวจสอบพบว่าผู้ให้บริการมีการกระทำผิดจริง ผู้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการฯหรือเจ้าของร้านจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ฐานปล่อยให้มีการกระทำหรือบริการที่ขัดต่อกฎหมาย  ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีในสถานประกอบการฯ มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และอาจได้รับโทษสูงสุดคือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนผู้ให้บริการที่กระทำผิด จะต้องถูกลบชื่อ ออกจากทะเบียนหมดสิทธิ์ประกอบอาชีพนวดอีกต่อไป  และต้องรับโทษตามกฎหมายอาญา

 

 

นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล

 

นายแพทย์ภัทรพล กล่าวต่อว่า ผู้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั้งสปา นวดเพื่อสุขภาพ หรือเพื่อเสริมความงามทุกแห่ง มีหน้าที่ต้องรักษามาตรฐานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต และต้องควบคุมดูแลมิให้มีการลักลอบค้าประเวณี รวมไปถึงไม่ให้มีการกระทำหรือบริการใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้รับบริการทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมทั้ง เป็นการรักษาชื่อเสียงของประเทศชาติอีกด้วย

เรื่องน่าสนใจ