ที่มา: dodeden

ภาพในพิธี วันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข 27 พ.ย.2559

15218448_1551966191486563_1671130228_n

15211665_1551966184819897_1526408165_n

15211529_1551966131486569_988333580_n

วันนี้ ( 28 พฤศจิกายน 2559 ) ที่โรงแรมมารวย การ์เด้น ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ผู้แทนจากเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ  รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล

นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (แห่งประเทศไทย) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ความร่วมมือทางวิชาการ การศึกษาวิจัยเพื่อออกแบบ และพัฒนาระบบโลจิสติกส์โครงสร้างพื้นฐาน ระบบบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ และแนวทางการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่  ( Big Data ) ด้านสาธารณสุข รองรับเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทย 

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานและระบบโครงสร้างมาตรฐานข้อมูล สารสนเทศสำหรับข้อมูลขนาดใหญ่ ด้านสาธารณสุข สำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยที่ยังขาดการเชื่อมโยงข้อมูลและแลกเปลี่ยนระหว่างสมาชิก

จึงมีแนวคิดจัดทำ โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการ โดยใช้ระบบคลังยาและเวชภัณฑ์ทั้งโซ่อุปทานหรือเครือข่ายโลจิสติกส์ มาประยุกต์ใช้ในงานวิจัย  ซึ่งเป็นการใช้ระบบของหน่วยงาน คน เทคโนโลยี กิจกรรม ข้อมูลข่าวสาร และทรัพยากร มาประยุกต์เข้าด้วยกัน เพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าหรือบริการ จากผู้จัดหาไปยังลูกค้า

โดยตั้งเป้าศึกษาวิจัยและพัฒนา 6 ระบบ คือ 1.ระบบฐานข้อมูลยาและเวชภัณฑ์  2.ระบบบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ เพื่อประยุกต์ใช้ในสถานบริการสุขภาพต่างๆ ของประเทศ 3.ระบบศูนย์ข้อมูลยาและเวชภัณฑ์   4.ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ 5.ระบบติดตามและสอบย้อนกลับ 6.ระบบพัฒนากระบวนการโลจิสติกส์และประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อการจัดการโลจิสติกส์ในโรงพยาบาล

ด้านศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาศูนย์ความเป็นเลิศฯ ได้สะสมองค์ความรู้ทางด้านการจัดการโซ่อุปทานสุขภาพ ทำให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  และมหาวิทยาลัยมหิดล มองเห็นถึงความสำคัญจึงได้สนับสนุนงบประมาณเป็นระยะเวลา 3 ปี

เพื่อเป็น คลังสมอง (Think Tank) ด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพของประเทศ และใน ปี 2559 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติได้นำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์ จึงได้ให้การสนับสนุนงบประมาณต่อเนื่อง

ซึ่งแผนงานวิจัยนี้  จะตอบสนองต่อนโยบาย/เป้าหมายรัฐบาล ด้านระบบโลจิสติกส์ประจำปี 2559 ดังนั้นการดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่ออกแบบดังกล่าวนี้ เพื่อพัฒนาโปรแกรมระบบริหารจัดการคลังยาและเวชภัณฑ์ยาและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภายในโรงพยาบาล ยังมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพ ( Medical HUB ) ที่ประเทศไทยพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นได้อีกด้วย

15207946_1551966194819896_1238916490_n

เรื่องน่าสนใจ