กระแสสำอางค์ ของหนุ่มเกาหลี
นอกจากสาวเกาหลีจะขึ้นชื่อด้านความงามอันเกิดจากการเสริมสวยนานา วิธีแล้ว หนุ่มเกาหลีก็กำลังเริ่มใส่ใจกับภาพลักษณ์ของตนเองมากขึ้น จากเดิมที่มักได้รับเครื่องสำอางจากคนใกล้ชิด ปัจจุบันหนุ่มหันมาเลือกซื้อเครื่องสำอางด้วยตนเองอย่างแพร่หลาย จนเกาหลีใต้กลายเป็นศูนย์กลางของการสั่งซื้อเครื่องสำอางอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน
นอกจากร่างกายกำยำสมชายชาตรี ท่าเต้นแข็งแรงตามจังหวะเพลงเร่งเร้า แต่สิ่งที่เหล่าไอดอลเคป็อปมีเหมือนกันอีกอย่างคือ ใบหน้าที่งดงามจากการแต่งเติมด้วยเครื่องสำอาง และเครื่องประทินผิว พวก เขาเป็นที่รู้จักในเกาหลีว่า kkonminam หรือหนุ่มหล่อผู้อ่อนโยนเหมือนดอกไม้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มเกาหลีลุกขึ้นมาใส่ใจภาพลักษณ์ตนเอง เช่น โชวอนฮยัก หนุ่มวัย 24 ปีที่ต้องทาครีมบำรุงผิว และทาคิ้วก่อนไปมหาวิทยาลัยทุกวัน เพราะเขารู้สึกว่าความมั่นใจทำให้เขาไม่ประหม่า และเข้าถึงบทเรียนได้อย่างเต็มที่
kkonminam เป็นกระแสที่เกิดขึ้นมาก่อนในญี่ปุ่นซึ่งรู้จักในชื่อ บิโชเนน หรือหนุ่มน้อยน่ารักที่แพร่หลายในสื่อร่วมสมัยอย่างการ์ตูนญี่ปุ่น กระทั่งในยุค 90 เมื่อเกาหลีใต้ผ่อนคลายการกีดกันสินค้าวัฒนธรรมจากญี่ปุ่น บิโชเนนจึงเป็นที่รู้จักของชาวเกาหลี ขณะที่พิษเศรษฐกิจยุค 90 ทำให้คนหนุ่มสาวที่แข่งขันแย่งงานหันมาเสริมสวยเพื่อโอกาสทางวิชาชีพ กระทั่งความโด่งดังของ อาห์นจุงฮวาน ฮีโร่ฟุตบอลโลกปี 2002 ที่ถูกจดจำในฐานะหนุ่มเจ้าสำอาง ส่งผลให้ยอดขายเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายเพิ่มเป็นประวัติการณ์ และคติว่าภาพลักษณ์คืออำนาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเกาหลีใต้นับแต่นั้น
เกาหลีใต้ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสังคมชายเป็นใหญ่ และความห้าวหาญของหนุ่มๆ ที่ต้องถูกเกณฑ์ทหารทุกคนเป็นเวลา 2 ปี แต่วันนี้ภาพหนุ่มเกาหลีถูกแฟนสาวช่วยทาลิปสติกในร้านกาแฟ หรือยามในโรงแรมที่แต่งหน้าขณะปฎิบัติงานกลายเป็นภาพชินตา แม้แค่สายการบิน Korean Air ยังมีการจัดอบรมการแต่งหน้าให้พนักงานต้อนรับชายปีละครั้ง โดย Euromonitor International เผยผลสำรวจว่า แม้เกาหลีใต้จะมีประชากรเพศชายเพียง 19 ล้านคน แต่ยอดการสั่งซื้อเครื่องสำอางสำหรับบุรุษกลับสูงที่สุดในโลกด้วยส่วนแบ่ง ถึงร้อยละ 21 ของยอดสั่งซื้อทั่วโลก
กระแสรักสวยรักงามในหนุ่มเกาหลี ส่วนหนึ่งยังมาจากเนื้อหาในโฆษณา เมื่อลองแวะไปที่ย่านเมียงดง แหล่งรวมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใน กรุงโซล จะพบโฆษณาเครื่องประทินผิวที่มีแบบเป็นไอดอลหนุ่มหน้าใสอยู่ทั่วเมือง ซึ่งทำให้บางคนยอมรับว่าแม้มั่นใจในผิวตนเอง แต่สื่อที่ย้ำถึงความสำคัญของภาพลักษณ์ทำให้ต้องกันมาใช้เครื่องสำอางบ้าง บางรายเผยว่าการหันมาแต่งหน้าทำให้เขาเข้าใจหัวอกผู้หญิงมากขึ้น ขณะที่สาวเกาหลีส่วนใหญ่รับได้หากผู้ชายจะหันมาดูแลตัวเอง หากเพียงไม่แต่งหน้าเข้มเกินไป แต่ยังมีผู้ชายอีกไม่น้อยที่ต่อต้านการใช้เครื่องสำอาง เพราะเห็นว่าเป็นการลดทอนความเข้มแข็งที่เป็นจุดเด่นของบุรุษเพศ
ผศ.คิมจูดุก จากมหาวิทยาลัยสตรีซุกมยอง กล่าวว่า ปัจจุบันมีชายเกาหลีมากมายหันไปพึ่งเครื่องสำอางจนถึงการผ่าตัดศัลยกรรมความ งามเพื่อสร้างการยอมรับในสังคม ซึ่งเขามองว่าการหันมาให้ความสนใจกับภาพลักษณ์ภายนอกมากกว่าผลักดันศักยภาพ ที่แท้จริงของตนเอง ซึ่งกำลังเป็นทัศนคติที่ผิดพลาดที่เกิดขึ้นในสังคมเกาหลีใต้ทุกวันนี้
ขอบคุณข่าวจาก tbs