วันนี้ (25ก.พ.59) รายงานอันดับความร่ำรวยโลกของสถาบันวิจัยหูรุ่น เปิดเผยว่า กรุงปักกิ่งของจีนครองตำแหน่งเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก แซงหน้านครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา โดยมีจำนวนมหาเศรษฐีทั้งสิ้น 100 คน ส่วนนครนิวยอร์กมีเพียง 95 คน
รายงานระบุว่า ในปี 2015 กรุงปักกิ่งมีเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 32 คน ในขณะที่นครนิวยอร์กมีเศรษฐีหน้าใหม่เพียง 4 คนเท่านั้น ทำให้ตัวเลขรวมมหาเศรษฐีจีนมีจำนวน 568 คน แซงหน้าสหรัฐที่มีเพียง 535 คน
มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของจีนยังคงเป็น หวังเจี้ยนหลิน เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทรัพย์สินมูลค่ารวม 2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 9.27 แสนล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม แม้กรุงปักกิ่งจะมีจำนวนมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก แต่กลับไม่ติด 1 ใน 10 อันดับมหาเศรษฐีของโลก โดยมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้แก่ บิล เกตส์ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.85 ล้านล้านบาท) ตามมาด้วย วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าพ่อวงการนักลงทุน มีทรัพย์สินรวม 6.8 หมื่นล้านสหรัฐ (ราว 2.42 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้ แม้จะไม่มีมหาเศรษฐีจีนติดท็อป 10 ของโลกเลยก็ตาม แต่ความร่ำรวยของเศรษฐีจีนมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 49.93 ล้านล้านบาท) เทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลียเลยทีเดียว
รูเพิร์ต ฮูเกเวิร์ฟ ประธานหูรุ่น ระบุว่า มหาเศรษฐีในจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้น แม้ภาพรวมทางเศรษฐกิจของจีนจะยังคงชะลอตัว และตลาดทุนจีนยังคงขาดเสถียรภาพ พร้อมระบุสาเหตุที่ทำให้กรุงปักกิ่งแซงหน้านครนิวยอร์กอาจเป็นเพราะทางการจีนอนุญาตให้มีการออกหุ้นเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวนมาก หลังก่อนหน้านี้มีการระงับไอพีโอ